สองสามีภรรยาปล่อยเงินกู้นอกระบบเรียกดอกเบี้ยเกิดกว่ากฏหมายกำหนด ยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2562 พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.นพดล สุทธิเสริม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตราด ร่วมสอบปากคำ นางสุนีย์ ลาภหิรัญ และ นายนิมิตร ลาภหิรัญ สองสามีภรรยาปล่อยเงินกู้นอกระบบ พร้อมของกลางเงินสด ทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง โฉนดที่ดิน บัญชีธนาคาร 140,000 บาท รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท พร้อมสมุดรายชื่อลูกหนี้ 4 เล่ม
พล.ต.ต.ประสาน กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า นางสุนีย์มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้เงินนอกระบบโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดร้อยละ 15 ต่อปี จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมจึงได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดตราดเข้าค้นบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นร้านขายข้าวอยู่ข้างสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้เงินสดจำนวนหนึ่ง จากนั้นตำรวจเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 46 ม.3 ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด พบ นายนิมิตรที่กำลังขนตู้เชฟออกจากบ้านจึงเข้าคุมตัวและยึดตู้เซฟไปตรวจสอบที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดตราด พบโฉนดที่ดิน 10 ฉบับ ทองคำแท่งรวม 360 บาท เงินสด 1,004,900 บาท รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
นางสุนีย์กล่าวว่า ของกลางทั้งหมดเป็นเงินจากมรดก ค้าขายผลไม้ ค้าทองคำ ค้าที่ดิน และเงินบางส่วนได้มาจากปล่อยเงินกู้จริง ที่ปล่อยให้ลูกหนี้ร้อยละ 10 ต่อเดือน มีลูกค้าประมาณเดือนละ 40-50 ราย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด และมีลูกค้าที่มีตำรวจบ้างเป็นบางเดือน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อให้นางสุนีย์ชี้แจงถึงที่มาของทรัพย์สินทั้งหมด หากหามาด้วยความบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้จะคืนให้ส่วนที่มาจากการปล่อยเงินกู้จะยึดไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายสุทัศน์ วัฒนะกูล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดตราด ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้แม้ว่าเจ้าหนี้จะถูกจับกุมแล้วแต่การกู้ยืมเงินของลูกหนี้กับเจ้าหนี้ไม่ได้เป็นศูนย์แต่จะให้ทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนดเหมือนเดิม