พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ 350 เขตอย่างยิ่งใหญ่ ยก'บุรีรัมย์โมเดล'พัฒนาทั้งประเทศ 'อนุทิน'ประกาศ]yjoพร้อมเป็นนายกฯ
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. เวลา16.00น. ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้จัดงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 350 เขต รวมถึง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 รายชื่อ และนโยบายของพรรค โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคและผู้สมัคร ร่วมเปิดตัวอย่างพร้อมเพรียง มีประชาชนกว่า 30,000 คน เข้าร่วมงาน
นายอนุทิน กล่าวบนเวทีว่า ก่อนมาที่นี่มีคนถามทำไมต้องมาเปิดเวทีใหญ่ ทั้งนโยบายและผู้สมัครทั่วประเทศที่ จ.บุรีรัมย์ คำตอบง่ายๆ คือ พรรคมีความผูกพันแน่นแฟ้นกับจ.บุรีรัมย์ เนื่องจากพรรคได้รวมตัวที่ จ.บุรีรัมย์ และเดินหน้าทำการเมืองด้วยกัน ภายใต้ชื่อภูมิใจไทย ซึ่ง จ.บุรีรัมย์ เปรียบเสมือนบ้านของตน เพราะเป็นบ้านของคนที่ตนนับถือเป็นแบบอย่างในการรักแผ่นดินเกิด รักประชาชน คือ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งมีเมตตา อดทน เหมือนพ่อแท้ๆ ส่วนตัวได้มาขอเป็นลูกคนที่ 3 นายชัยก็รับเป็นลูก แต่ไม่รู้รักใครมากกว่า
“ขณะเดียวกันผมมีความรักพี่ชายสุดหัวใจ คือ พี่เนวิน ชิดชอบ แม้หลายคนสงสัยคบกันมาได้อย่างไร 10 กว่าปี เพราะเปรียบเหมือนพี่ชาย เป็นครูคอยชี้แนะ และบอกผมทุกวันว่า หากทำงานการเมือง ให้รักประชาชนมากกว่ารักตัวเอง ดังนั้น จ.บุรีรัมย์ จึงเป็นเหมือนบ้านผม บ้านเกิดพ่อ บ้านเกิดพี่ชาย เป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องมาที่บุรีรัมย์” นายอนุทิน กล่าว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันนี้จ.บุรีรัมย์ มีความเจริญเติบโตมาก เป็นเมืองที่นักลงทุน นักท่องเที่ยวทั่วโลก มาเยือนปีละ 3 ล้านคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้พรรคจะใช้ บุรีรัมย์โมเดล ไปสร้างความเจริญให้กับคนทั้งประเทศ และพัฒนาประชาชนให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมูลค่าทรัพย์สิน พรรคจะทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้นไม่พอ แต่ต้องมีความสุข และทำให้บ้านเมืองไม่มีความแตกแยก ขัดแย้ง จะทำให้ได้ทั่วทั้งประเทศ เราจะได้เมืองไทยงดงามน่าอยู่กลับคืนมา
ทั้งนี้ พรรคมี 4 แนวทางหลักสำคัญเพื่อทำงานให้บ้านเมือง คือ 1.แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ วันนี้พรรคประกาศเจตนารมณ์ ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน โดยให้ความสำคัญกับเรื่องปากท้องเป็นสิ่งแรก 2.ไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะถือเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้า 3.ผู้สมัครมีความรู้ความสามารถ เพราะพรรคมีการคัดสรร เลือกคนดี คนทำงานเก่ง คนทำงานเป็น มารับใช้ประชาชนเพื่อให้ตัดสินใจ และ 4.พรรคเคารพกติกา และเลือกข้างมานานแล้ว คือเลือกอยู่กับประชาชน ไม่เคยเป็นตัวแทนใครหรือกลุ่มอำนาจใดนอกจากประชาชน และเลือกอยู่ข้างประเทศไทย
"พรรคภูมิใจไทยจะส่ง ส.ส.เขต 350 คน และ บัญชี 150 คนพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเลือกพรรคภูมิใจไทย 375 เสียง เป็นพรรคอันดับ 1 ก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี มันต้องเป็นแล้ว หมูไม่กลัวน้ำร้อนแล้ว และผมจะทลายทุกข้อจำกัด เพื่อลดอำนาจรัฐเพื่อปากท้องประชาชน" นายอนุทินกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ได้แถลงว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทย เช่น ข้าวระบบกำไรแบ่งปัน การพักหนี้ กยศ. ระบบการเรียนออนไลน์ และนโยบายที่เปิดเป็นแคมเปญสุดท้ายซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก คือ การปลูกกัญชาเสรี โดยการแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ซึ่งนายศักดิ์สยามระบุว่า พรรคภท.ต้องการใช้โมเดลของมลรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งทำให้กัญชากลายเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยหลังจากมลรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเสรีกัญชา ก็ทำให้เป็นตลาดกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าถึง 5 แสนล้านบาทและหลังเปิดให้ประชาชนสามารถซื้อขายได้อย่างเสรีทำให้เก็บภาษีได้ 1 แสนล้านบาท
อย่าวไรก็ตาม หากนำโมเดลดังกล่าวมาใช้กับประเทศไทย จะทำให้ทุกครอบครัวสามารถปลูกกัญชาได้โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องค่าใบอนุญาตการปลูกที่สูงถึง 30 ล้านบาทตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายไปก่อนหน้านี้ เพราะกฎหมายดังกล่าวเอื้อต่อคนรวย และทำให้คนไทยและประเทศไทยสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากผลผลิตกัญชา 1 ต้นจะได้ 1 กิโลกรัมต่อปี ราคากิโลกรัมละ 7 หมื่นบาท หากปลูก 6 ต้นตามโควตา จะทำให้มีรายได้ 420,000 บาท ต่อปี ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน