ชาวบ้าน-กู้ภัยกว่า30คนช่วยกันเคลื่อนย้ายหนุ่มอ้วน หนักกว่า 300 กิโลกรัม รักษาตัวที่โรงพยาบาลปราณบุรี
เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโรคอ้วน ซึ่งอาศัยอยู่ภายในบ้านพักริมแม่น้ำปราณบุรี บ้านเลขที่31 บ้านคลองกิ่ว หมู่1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลปราณบุรี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถพยาบาลออกให้การช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ปลูกอยู่ริมทะเล สภาพเก่า ด้านในบ้านพบ ผู้ป่วยนอนอยู่ด้านในบ้านคือ นายธงชัย แจ่มแจ้ง อายุ 26 ปี ป่วยเป็นโรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 300 กิโลกรัม ไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าตามปกติได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสุขภาพเบื้องต้น พร้อมรอทีมแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลปราณบุรี ,โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากน้ำปราณ และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลปากน้ำปราณมาสนับสนุนเพื่อให้การช่วยเหลือ
นายภูกิจ โภคธนวัฒน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้วางแผนในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าผู้ป่วยจะได้รับอันตรายขณะเคลื่อนย้าย เนื่องจากสะพานทางเดินแคบและไม้ผุ และพื้นบ้านส่วนใหญ่ทำจากไม้ไผ่ทำให้ผุอาจหักได้ จึงต้องเสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นไม้ และรางเหล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตัดสินใจพาผู้ป่วยเดินทางด้วยเรือ เคลื่อนย้ายไปขึ้นท่าเรือประมงที่อยู่ใกล้เคียงก่อนจะขนย้ายขึ้นรถกระบะของโรงพยาบาลปราณบุรีไปทำการรักษาต่อได้
นางประทุม แจ้งสว่าง แม่ของผู้ป่วย เปิดเผยว่า นายธงชัยป่วยเป็นโรคอ้วนและเริ่มเกิดอาการตั้งแต่อายุได้8 ขวบ น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นร้อยกิโลกรัม กระทั่งปี 2555 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากน้ำปราณ ได้พาไปทำการรักษาโรคอ้วนที่โรงพยาบาลศิริราช ตอนนั้นน้ำหนักตัว ราว 230 กิโลกรัม ซึ่งแนวทางการรักษาคือการตัดกระเพาะให้เล็กลงเพื่อควบคุมปริมาณอาหารต้องลดน้ำหนัก
อย่างไรก็ตามปรากฏว่า นายธงชัยหวาดกลัวจนปฏิเสธการรักษากลับมาอยู่บ้านตามปกติ กระทั่งล่าสุดเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา นายธงชัยเริ่มมีอาการหายใจเหนื่อยหอบ กินได้น้อยลง ตัวบวม ท้องโตขึ้น และเริ่มอาการแย่ลงเมื่อ 15 วันที่ผ่านมา จนกระทั่งวันนี้ต้องตัดสินใจโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ช่วยพาไปรักษาเพราะนายธงชัยไม่สามารถเดินออกจากบ้านได้ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มาร่วมช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในครั้งนี้จนสำเร็จ