เมรุลอยนกหัสดีลิงค์พระราชทานเพลิงศพครูใหญ่หลวงพ่อคูณเสร็จกว่าร้อยละ 90 มข.ยันไม่มีนโยบายทำวัตถุมงคลใดๆแจกถ้ามีถือว่าแอบอ้าง
รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะประธานฝ่ายก่อสร้างนกหัสดีลิงค์ เปิดเผยว่า การสร้าง เมรุลอยนกหัสดีลิงค์ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ในวันที่ 29 ม.ค. 2562 ณ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่นสร้างขึ้นภายใต้งานวิจัย ศึกษา ค้นคว้า ประกอบด้วย 3 ส่วนได้แก่ การศึกษาข้อมูล การออกแบบ และการก่อสร้าง ด้านการศึกษาข้อมูล ได้ทำการสำรวจวรรณคดีโบราณ โดยเฉพาะในภาคตะวันอกเฉียงเหนือในการจัดพิธีการฌาปณกิจศพพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ให้เป็นไปตามธรรมเนียมประเพณีที่เหมาะสมดีงาม
ทั้งนี้ ด้านการออกแบบ ถอดอัตลักษณ์ของหลวงพ่อคูณ จากความเรียบง่าย สู่งานศิลปะสีขาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง และ เมื่อถอดรหัสเอกลักษณ์ของหลวงพ่อ ผ่านงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่พบว่า มีรูปปั้นช้างมี 4 งา ส่วนหัวของนกหัสดีลิงค์จึงเป็นช้าง 4 งา ด้วยเช่นกัน ตามเจตนาของหลวงพ่อ ที่ไม่ต้องการให้คนอื่นมาใช้ต่อ นั่นหมายความว่า วันใดถ้ามีพระสงฆ์มรณภาพ จะสร้างหัสดีลิงค์สีขาวเช่นเดียวกับหลวงพ่อไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในด้านการก่อสร้าง สร้างโดยช่างสิบหมู่ ได้รับเกียรติจากช่างหลายสถาบันทั้งภาครัฐและเอกชน ช่างศิษยานุศิษย์ มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ไทยโบราณ อาทิ เขียน แกะ สลัก ปั้น ปูน รัก หุ่น บุ กลึง หล่อ โดยมีศูนย์กลางก่อสร้างที่ริมบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น โครงสร้างตัวนกเป็นไม้เนื้อแข็ง สูง 22.6 เมตร นำไม้ไผ่มาทำโครงด้านนอก และใช้กระดาษสีขาวมาพับคล้ายการทำเปเปอร์มาเช่ หรือประติมากรรมกระดาษ ซึ่งทั้งหมดจะถูกเผาพร้อมกับร่างหลวงพ่อในวันที่ทำพิธีฌาปนกิจ ประดิษฐานบนฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 16 เมตร ประกอบด้วยนาคที่มีความยาว 5 เมตร 12 ตน และรายล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ 32 ตน
รศ.ดร.นิยม กล่าวว่า ปัจจุบันการก่อสร้างนกหัสดีลิงค์ ดำเนินแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจะทำการเคลื่อนย้ายไปประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลอีสาน จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 7 มกราคม 2562 จากนั้นทำการติดตั้งใช้เวลาประมาณ 10 วัน ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จครบถ้วน ภายในวันที่ 21 มกราคม 2562 อย่างแน่นอน พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 21-28 มกราคม 2562 เมื่อเข้าสู่วันที่ 29 มกราคม 2562 จะทำการเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จากศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มายังพุทธมณฑลอีสาน ซึ่งไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปยังมณฑลพิธีได้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการดำเนินงานได้จัดเตรียมจุดสักการะไว้ให้ประชาชนได้วางดอกไม้จันทน์ไว้อย่างเหมาะสม
สำหรับ ตำนาน “นกหัสดีลิงค์” หรือ นกสักกะไดลิงค์ มีส่วนหัวเป็นช้าง ตัวเป็นนกขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล มาจากตำนานโบราณของนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งนครนั้นถึงแก่สวรรคต ต้องอัญเชิญพระศพออกไปฌาปนกิจที่ทุ่งหลวง มีนกหัสดีลิงค์ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหารบินมาจากป่าหิมพานต์ จึงบินโฉบลงมาเอาพระศพไป เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้นก็ประกาศให้คนดีเข้าต่อสู้เพื่อเอาพระศพคืนมา
นางสีดาจึงเข้ารับอาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ โดยใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตายตกลงมาพร้อมพระศพ พระมหาเทวีจึงโปรดสั่งให้ช่างทำเมรุคือ หอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์ แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน หลังจากนั้นมาจึงได้ถือเอาประเพณีทำนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุของชั้นเจ้านาย ตามความเชื่อที่ว่า นกหัสดีลิงค์ สามารถนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้
รศ.ดร.นิยมยืนยันว่า ในที่ประชุมกรรมการอำนวยการพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และครูใหญ่พระเทพวิทยาคมเป็นกรณีพิเศษ ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2561 ระบุว่า ไม่มีนโยบายในการจัดทำทำเหรียญหรือวัตถุมงคลที่ระลึกใด ๆ เพื่อการจำหน่าย จ่ายแจก ถ้ามีแปลว่า บุคคล กลุ่มคน ทำการแอบอ้าง