สถานประกอบการขานรับนโยบายร่วมแชร์ข้อมูลความต้องการกำลังคนในระบบบิ๊กดาต้า รมช.ศธ. มั่นใจผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาตอบโจทย์ความต้องการทิศทางประเทศไทย 4.0
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการ/นโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ด้านการผลิตกำลังคนอาชีวศึกษา ของศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ที่วิทยาลัยเทคนิค
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า งานพัฒนาด้านกำลังคนอาชีวศึกษามีความก้าวหน้าตามลำดับ การจัดตั้งศูนย์ประสานงาน ฯ นั้น เริ่มต้นจากข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบให้กระทรวงศึกษาและหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องของประเทศ จัดทำแผนผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อมา กระทรวงศึกษาธิการมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเป็นครั้งแรกในพื้นที่ EEC และเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนประสบความสำเร็จ
จากนั้น ได้ขยายไปยังภูมิภาคอื่นตามการบริหารราชการของรัฐบาล รวมเป็น 1ศูนย์กลาง 6 ศูนย์ภูมิภาคและ18 ศูนย์กลุ่มจังหวัด และนำระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้ามาใช้บริหารจัดการศึกษาเป็นครั้งแรก เพื่อให้ทราบข้อมูลทั้งดีมานด์และซัพพลายไซ้ท์ในการบริหารจัดการกำลังคนอาชีวศึกษาที่เป็นปัจจุบัน และสามารถวางแผนอนาคตรวมทั้งร่วมกับกระทรวงแรงงานในการแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลแรงงานร่วมกัน
ทั้งนี้ ล่าสุดหลังมอบนโยบายให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศเข้าขอความร่วมมือสถานประกอบการที่จดทะเบียนอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ ร่วมลงทะเบียนและคีย์ข้อมูลความต้องการแรงงานในระยะ 3 ปีผ่านระบบบิ๊กดาต้า เพื่อให้ทราบความต้องการกำลังคนที่เป็นปัจจุบัน ตั้งเป้า นำร่อง 4 ศูนย์ภูมิภาค(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคใต้ฝั่งอันดามัน,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย, ภาคเหนือ ) รวม 35 จังหวัด มีสถานประกอบการร่วมลงทะเบียนในระบบครบ 100% ภายในสิ้นเดือนม.ค.2562 ขณะที่ศูนย์ประสานงานฯภาคใต้ชายแดนรายงานความคืบหน้า มีจำนวนสถานประกอบการราว 1,600 แห่ง ล่าสุดเข้าร่วมคีย์ข้อมูลในระบบแล้วกว่า 723 แห่ง หรือราว 45% และคาดจะครบ 100% ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2561
"ข้อมูลบิ๊กดาต้าทั้งหมด จะถูกรวมเป็นศูนย์ข้อมูลกลาง สามารถนำมาบริหารเพื่อตอบโจทย์ทั้งความต้องการภาคอุตสาหกรรมของประเทศ นักเรียนอาชีวศึกษาทุกคนมีงานทำ และข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวางแผนการผลิตกำลังคนที่มีทั้งปริมาณและคุณภาพตามทิศทางการพัฒนาประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป" พล.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว