เจ้าหน้าที่ผ่าพิสูจน์ซากกระทิงเกยตื้นตายในเขื่อนลำแชะ ไม่พบถูกทำร้าย คาดกินอาหารจนอึดอัดเลยลงไปนอนแช่น้ำหวังให้สบายตัว แต่พลัดตกร่องน้ำลึกจมน้ำเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ กาญจนะคช หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 อำนวยการ ทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ทำการเก็บกู้ซากกระทิง เพศเมีย อายุประมาณ 9 ปี น้ำหนักประมาณ 700 กิโลกรัม ที่ข้ามเขื่อนลำแชะ มาตายเกยตื้นที่บริเวณท่าเรือบ้านมาบกราด หมู่ที่ 17 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี ซึ่ชาวบ้านไปพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุการตายของกระทิงตัวดังกล่าว
ทั้งนี้ ทีมสัตว์แพทย์ฯ นำโดยนายสัตวแพทย์หญิงศุภลักษณ์ ประจันทร์ ตำแหน่งนายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ได้ทำการผ่าพิสูจน์ซากศพของกระทิงตัวดังกล่าวอย่างละเอียด และได้ลงความเห็นถึงสาเหตุของการตายว่า ตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย หรือบาดแผลติดเชื้อและเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต แต่ตรวจพบว่าอวัยวะภายในทั้งหัวใจ ปอด และอวัยวะภายในอีกหลายจุด มีร่องรอยที่เชื่อได้ว่าเกิดภาวะช็อคจนนำไปสู่การเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังพบว่าภายในกระเพาะอาหารของกระทิงมียอดมันสำปะหลังอยู่ในกระเพาะเป็นจำนวนมากผิดปกติ ซึ่งสันนิษฐานว่า กระทิงตัวนี้กินอาหารซึ่งเป็นต้นมันสำปะหลังของชาวบ้านที่อยู่ริมเขื่อนลำแชะ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสัตว์ป่า จึงทำให้เกิดความอึดอัด กระทิงตัวดังกล่าวจึงลงไปดื่มและแช่น้ำภายในเขื่อนลำแชะที่อยู่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี เพื่อให้สบายตัว แต่น้ำที่ลงไปน่าจะมีเป็นร่องน้ำลึก จึงทำให้กระทิงตัวดังกล่าวตกใจจมน้ำเสียชีวิต ก่อนจะถูกกระแสน้ำพัดลอยข้ามเขื่อนมาเกยตื้นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางทีมสัตวแพทย์ ได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อของอวัยวะส่วนต่างๆของกระทิงตัวดังกล่าวกลับไปด้วย เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทราบทางห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะทำการกลบฝังฆ่าเชื้อต่อไป