หนุ่มเมาละเมอขึ้นนั่งคร่อมญาติ ใช้กรรไกรกระหน่ำแทงเสียชีวิต เจ้าตัวให้การวกไปวนมาบอกว่าทำไปไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2561 ร.ต.อ.วัชรินทร์ หูชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ เกิดเหตุมีคนแทงกันเสียชีวิตภายในบ้านที่มีการจัดงานศพ ในหมู่บ้านหนองบัวขาว เลขที่ 68/1หมู่ 17 ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ และแพทย์เวรโรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพนั่งฟุบคว่ำหน้าจมกองเลือด ใกล้กันยังพบกรรไกรสีเขียวมีคราบเลือดติดตกอยู่ และพบที่นอนหมอนเสื่อผ้าห่มกระจายทั่วบริเวณ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายสหัส เทพเสนา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 17 บ้านหนองบัวขาว ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ถัดไปใกล้กันภายในบริเวณที่เกิดเหตุพบ นายปรางค์ กิตติภูมิ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 273 หมู่ที่ 17 บ้านหนองบัวขาว ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ผู้ก่อเหตุใช้กรรไกรแทงนายสหัสเสียชีวิต ถูกญาติพี่น้องเจ้าของบ้านจับมัดมือไว้ นั่งอยู่ในสภาพสะลึมสะลือเมาหนัก ให้การกับเจ้าหน้าที่วกไปวนมาพูดจาไม่รู้เรื่อง

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุรับสารภาพแต่เพียงว่า ไม่รู้ตัวว่าทำไปทำไมและไม่รู้สาเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขอควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

นางเยี่ยม เกิดชีลอง อายุ 66 ปี ชาวบ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 17 บ้านหนองบัวขาว ต.ชีลอง อ.เมืองชัยภูมิ เป็นญาติเจ้าของบ้านเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากเผาศพปู่ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ หลังจากเสร็จงานก็กลับมานั่งกินข้าวกันอยู่บ้านงานและร่วมกับญาติช่วยกันเคลียร์ข้าวของเพื่อรอเก็บกระดูกปู่ที่วัดในเช้าวันนี้ โดยผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกันมาช่วยงานพากันนั่งดื่มสุราจนเมาและพากันไปนอนบนบ้านเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเจ้าของบ้านงานศพ จนใกล้รุ่งเช้าก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเห็นนายปรางค์กำลังนั่งคร่อมใช้กรรไกรกระหน่ำแทงนายสหัสจนเสียชีวิต โดยนายปรางค์ดูเหมือนกับไม่มีสติ ก่อนที่ญาติจะเข้าไปล็อกตัวนายปรางค์ออกมา แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว

ทางด้าน ร.ต.อ.วัชรินทร์ หูชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิ ได้ตรวจสอบร่างของผู้เสียชีวิตและสถานที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบร่องรอยการต่อสู้และผู้เสียชีวิตถูกกรรไกรแทงจำนวน 2 แห่ง ซึ่งเป็นจุดสำคัญบริเวณลำคอตัดเส้นเลือดใหญ่และขั้วหัวใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้กระทำความผิดไปคุมขังที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง