พายุฝนพัดถล่ม 3 หมู่บ้านใน อ.เมืองกาญจน์ บ้านเรือนเสียหายกว่า 30 หลัง เผยรุนแรงสุดในรอบ 30 ปี

วันนี้ 20 ต.ค. 2561 นายวิฑูรย์ สิริกุล นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี สั่งการให้ นายกฤต มังกะโรทัย ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี ฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ที่ 2 (อำเภอเมือง) ร่วมกับ พันเอก มนตรี ธนาวรรณโอภาส เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 17 และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ และ ชุดร้อย รส. (อำเภอเมือง) มณฑลทหารบกที่ 17 และ เจ้าหน้าที่ อบต. บ้านเก่า ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์ลมพายุพัดถล่มในพื้นที่หมู่ 5 หมู่ 7 และหมู่ 13 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ลมพายุเริ่มก่อตัวและใช้เวลาพัดถล่มประมาณ 5 นาที แต่ด้วยกระแสลมที่รุนแรง ส่งผลให้หลังคาบ้านเรือนหลายหลังถูกลมพัดปลิวหายไป โดยที่วัดหนองบ้านเก่ากระแสลมได้พัดโครงหลังคาเหล็ก ที่สร้างปกคลุมพระพุทธรูปบริเวณริมกำแพงวัดพังถล่มลงมาทับยอดเศียรของพระพุทธรูป 8 องค์ หักพังเสียหาย ส่วนที่ศาลเจ้าพ่อเขาแหลม พื้นที่หมู่ 14 ต.บ้านเก่า ต้นตะคึกอายุกว่า 100 ปี ความสูงกว่า 50 เมตร ถูกกระแสลมพัดถล่มจนรากของต้นตะคึกหลุดขึ้นมาจากพื้นดิน โชคดีที่ต้นตะคึกดังกล่าวล้มไปในทิศทางตรงข้ามกับศาลเจ้า ทำให้ศาลเจ้ารอดปลอดภัย

ขณะที่บ้านของ นายมานิตย์ พวงทอง อายุ 53 ปี ในพื้นที่หมู่ 7 ถูกกระแสลมพัดถล่มจนต้นมะค่าแต้ขนาดใหญ่ล้มทับหลังคาบ้านพังเสียหาย ส่วนบ้านหลังใกล้เคียงกันที่มีผู้สูงอายุอยู่อาศัยกันตามลำพังสองคน ลมพายุได้พัดถล่มหลังคาบ้านปลิวเสียหายเกือบทั้งหลัง โดย นายมานิตย์ กล่าวว่า ลมพายุพัดถล่มในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งระดมกำลังเร่งช่วยกันตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนและสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบและดำเนินการช่วยเหลือต่อไป