ลำปาง-ม.ธรรมศาสตร์(มธ.) ศูนย์ลำปาง และสถาบันไทยคดีศึกษาร่วมสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

รศ.ดร.สุปรียา แก้วละเอียด รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์ลำปาง และกฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสาวธาร โพธิ์กลัด ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กองบริหารศูนย์ลำปาง นำศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา รศ.ดร.สายฝน สุเอียนทรเมธี คณบดีวิทยาลัยสหวิทยาการ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัญณิฐา ดิษฐานนท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาโทการบริหารนวัตกรรมและเทคโนโลยี (MTT) ร่วมสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง เพื่อวางแผนยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

รศ.ดร.สุปรียา แก้วละเอียด เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปางในครั้งนี้ได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้แก่ วัดปงยางคก สถานีรถไฟห้างฉัตร วัดปงสนุกเหนือ วัดพระธาตุเสด็จ และบ้านหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่ของจังหวัดลำปาง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และยังคงความสวยงามทางสถาปัตยกรรม โดยการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ยังเป็นการศึกษาแหล่งโบราณคดีที่ยังคงทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ สามารถเก็บเป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่จะทำเส้นทางการท่องเที่ยวที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนโดยรอบอีกด้วย

รศ.ดร.สุปรียา กล่าวว่า การขับเคลื่อนยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดลำปางในครั้งนี้ ยังได้ร่วมหารือถึงแนวทางการพัฒนาองค์ความรู้ การยกระดับพื้นที่เพื่อให้เกิดเส้นทางการท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม และการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ชุมชนร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง โดยมี รศ.ดร.กิตติศักดิ์ สมุทธารักษ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และ น.ส.ยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง เข้าร่วมแลกเปลี่ยน

“นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง กับสถาบันไทยคดีศึกษาซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนงานวิจัยและบริการวิชาการด้านศิลปะและวัฒนธรรมทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เพื่อผลักดันให้มีการนำองค์ความรู้ทางวิชาการไปสู่การยกระดับเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่ และการถ่ายทอดให้แก่ประชาชน ชุมชน นำไปสู่การสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของคุณค่าและรากเหง้าของตนเอง เพื่อนำไปสู่การการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนต่อไป” รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์ลำปางฯ กล่าว