โคราชพบเมืองลับแลแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เตรียมเสนอจังหวัดบูรณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก พื้นที่เขตติดต่อของ ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย กับ ต. หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เป็นการแบ่งเขตตามล่องน้ำซึ่งได้มีแหล่งหินสวยงามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นเขตพื้นที่ป่าสาธารณะผืนเดียวกัน ได้มีประชาชนนุ่งขาวห่มขาวขาว ไปร่วมบวชต้นไม้และ ชมหินงามบริเวณดังกล่าวซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นเมืองลับแลของจ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวก่อนหน้านี้ชาวบ้านมีเรื่องเล่าขานติดต่อกันมา โดยมีความเชื่อว่าเป็นพื้นที่ลับแลที่ใครเข้าไปแล้วจะหลงและกลับออกมาไม่ถูก บริเวณดังกล่าวจะมีพระพุทธรูปขนาดเล็กตั้งเป็นบางจุด นอกจากนี้ยังมี บ่อน้ำมีรูปปั้นพญานาคตั้งไว้ข้างบ่อน้ำ ภายในบ่อมีน้ำขังอยู่ตลอดเวบาไม่เคยแห้งซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หลายคนจึงตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อนี้ไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล
พระสุวิทย์ วิสุทโธ ผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมในครั้งนี้กล่าวถึงเมืองลับแลแห่งนี้ว่า เดิมเป็นป่าเขาหินปูนมีผู้คนมาขุดหินปูนไปขาย ซึ่งเป็นปูนกินหมาก ต่อมาดินได้พังทับผู้ที่มาขุดหินปูนบริเวณดังกล่าวมีคนตายกันหลายคน ต่อมาได้มีโครงการขุดบ่อบริเวณนี้จำนวนเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จึงเกิดแนวคิดว่าจะทำบุญให้แก่ผู้ที่ ล่วงลับไปในบริเวณดังกล่าว ป่าหุบใหญ่ มีเนื้อที่กว่าพันไร่ มีสถานที่แปลกและอาตมาจะเสนอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจและพัฒนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต
พระสุวิทย์ กล่าวว่า ชาวบ้านเชื่อว่าหุบเขาแห่งนี้เป็นเมืองลับแลแห่งโคราชโดยมีหินปูน เป็นชั้นมีรูปสวยงามไม่มีใครได้เคยเห็นและค้นพบ สำหรับการพัฒนาในอนาคตขณะนี้ยังเป็นเพียงการปฏิบัติธรรมและนักปฏิบัติธรรมมาปฏิบัติที่บริเวณดังกล่าวนี้ นอกจากนี้ยังรองรับกลุ่มพระที่จะเดินธุดงค์ได้เข้ามาพักและปฏิบัติธรรมที่บริเวณดังกล่าวได้ ส่วนที่จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมหรือ เป็นสถานพุทธมณฑล ในอนาคตนั้น ยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากอาตมายังเป็นพระผู้น้อยไม่มีตำแหน่งอะไร แต่ขณะนี้ได้มีกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ได้มาเห็นพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้แล้วว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้