จับได้แล้ว 3 ผู้ต้องขังชิงรถเรือนจำหลบหนี พบลงมาหาน้ำดื่ม สุนัขชาวบ้านเห่า ก่อนถูกทหารจับกุมได้ในสภาพอิดโรย

พ.ต.สังคม รองมาลี ผู้บังคับชุดปฏิบัติการที่ 1 หมวดรักษาความสงบ กองบัญชาควบคุม มทบ.44 กล่าวว่า พ.อ.พรชัย อินทนู ผบ.มทบ 44 ได้สั่งการให้ นำกำลัง 1 ชุด 16 นาย เข้าร่วมค้นหาผู้ต้องขังที่หลบหนี ภายใต้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ คือ พ.ต.อ.ไกรษรี สุววรรณงาม ผกก.ทุ่งตะโก โดยเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันแรก ที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 05.30 น.วันที่ 13 ต.ค.ที่ ได้รับแจ้งจาก นายแดง (ขอสงวนนามจริง) ว่าหมาเห่าไม่หยุด สงสัยว่าจะเป็นต้องขังที่หลบหนีเข้ามาบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธ เข้าไปตรวจสอบ ห่างจากจุดอำนวยการเหตุการณ์ประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นเนินเขารอยต่อระหว่างป่ากับสวนปาล์มน้ำมัน พบแนวต้นไม้เคลื่อนไหว จึงส่องไฟดู พบผู้ต้องขังทั้ง 3 คนหลบซ่อนข้างโคนต้นปาล์มน้ำมัน สภาพอิดโรย หมดแรงจึงนำตัวมาที่ตั้งชุด ให้น้ำและขนมปัง ที่เตรียมไว้เป็นเสบียง ให้รับประทาน

ผู้ต้องขังทั้ง 3 เปิดเผยว่า ได้หลบหนีขึ้นไปบนเขาห่างจะจุดที่ถูกพบไม่ไกล ขณะหลบหนีได้ซ่อนตัวในป่า และเห็นเจ้าหน้าที่ที่ออกติดตามเดินไปมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่เห็น เนื่องจาก ตั้งแต่วันหลบหนีไม่ทานข้าว เหนื่อยล้า จึงลงจากเขาเพื่อมาหาน้ำดื่ม แต่หมาชาวบ้านเห่า ก่อนถูกจับกุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จุดที่พบผู้ต้องขัง ห่างจากกองอำนวยการเหตุการณ์ ประมาณ 300 เมตร และห่างจากจุด ที่มีการงัดบ้านประมาณ 100 เมตร ในพื้นที่ ม.12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เจ้าของสุนัข ของนายแดง (ขอสงวนนาม) บอกว่า หมาเห่าไม่หยุด ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เสียงเห่า เป็นระยะ ซึ่งจากประสบการณ์แล้ว บอกได้ว่า เป็นเสียงเห่าคน ไม่ใช่สัตว์ จึงออกไปแจ้งทหารที่ประจำอย่างบริเวณใกล้เคียง มาตรวจสอบ

สำหรับผู้ต้องขัง 3 คนที่ถูกจับกุมกลับคืนมาได้ คือ นายพิเชษฐ กลิ่นโอชา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/13 ม. 6 ต.กะเปอร์ จ.ระนอง นายธราธิป เพิ่มลาภ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/47 ม.3 ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ นายกฤษฎา เกตุนุ้ย 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/1 ม.7 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร

ศาลจังหวัดหลังสวนได้อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องขังที่หลบหนีทั้ง 3 คน ตามหมายจับเลขที่ 135,136,137/2561 ฐานเป็นผู้ต้องขังตามอำนาจของศาลหลบหนีการควบคุมโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานตามกฎหมาย โดยใช้กำลังประทุษร้ายและขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันปล้นทรัพย์ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป