ชลบุรี-เจ้าหน้าที่เริ่มรื้อถอนย้ายสิ่งปลูกสร้างบุกรุกที่ดินของรัฐตามกฎหมายเพื่อเร่งส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย กรมชลประทาน นำกำลังเข้าดำเนินการรื้อถอนย้ายอาคารและสิ่งปลูกสร้างของประชาชนที่อยู่อาศัยในแนวโครงการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินบริเวณแนวเส้นทางรถไฟโรงเรียนบ้านเขาชีจรรย์ ม.11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีนางสมบูรณ์ เจริญกิจ และ นางสาวลำภู ทองปลิว เจ้าของบ้านได้เข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อร้องขอให้การขยายระยะเวลาในการรื้อถอนออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีความพร้อม

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจว่ากรณีนี้ได้มีการเจรจาไปแล้วหลายครั้ง จะต้องเร่งส่งพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการปรับสภาพเส้นทางรองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินตามสัญญา โดยที่ผ่านมาก็ได้มีการเจรจาเพื่อจ่ายค่าทดแทนให้ชาวบ้านทั้ง 2 รายไปแล้ว จากเดิมได้มีการประเมินราคาค่าทดแทนและมีการทำสัญญากันไป เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2564 โดยระบุให้รายที่ 1 ได้รับค่าทดแทน 1,920,6009 บาท รายที่ 2 ได้รับค่าทดแทน 821,929 บาท แต่ทั้ง 2 รายจะต้องยื่นเอกสารแสดงสิทธิการเช่าที่ดินกับกรมชลประทานก่อน แต่ปรากฏว่าผู้ได้รับผลกระทบไม่สามารถแสดงสิทธิดังกล่าวได้ ทาง รฟท.จึงไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนให้ตามที่ได้ตกลงกันไว้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2564 ได้มีประกาศของ คกก.เบื้องต้น (ครั้งที่ 4) มีการปรับเปลี่ยนค่าทดแทนตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด โดยระบุให้ผู้เสียหายรายที่ 1 ได้รับค่าทดแทน 324,730 บาท รายที่ 2 ได้รับค่าทดแทน 283,745 บาท โดย รฟท.ได้มีหนังสือแจ้งประกาศครอบครองไปยังคู่กรณี หลังจากนั้นชาวบ้านทั้ง 2 ราย ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมมายัง รฟท. และศูนย์ดำรงธรรมจ.ชลบุรี โดย ระบุให้ รฟท จ่ายเงินค่าทดแทนตามสัญญาเดิม แม้รฟท.ได้ตระหนักและเห็นใจในกรณีดังกล่าวแต่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากผู้ร้องขอไม่สามารถแสดงสิทธิในที่อยู่อาศัยได้ ก็จะกลายเป็นการบุกรุกที่ดินของรัฐและไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนได้ตามที่ชาวบ้านแจ้งความประสงค์ไว้ จึงได้พิจารณาจัดสรรค่าทดแทนให้บางส่วนเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านแทน ตามประกาศ คกก. โดยล่าสุด รฟท. ได้ทำหนังสือแจ้งประกาศครอบครองเร่งด่วนและให้ผู้อาศัยมารับเงิน ค่าทดแทนหลังจากวันวางทรัพย์ภายใน 90 วัน ซึ่งครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น รฟท. ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อเจรจากับชาวบ้านทั้ง 2 รายอย่างต่อเนื่อง เพื่อขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและรับค่าทดแทนตามประกาศใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ รฟท.จึงจำเป็นต้องเข้าดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งมีแผนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในระหว่างวันที่ 10-12 พ.ค.2565 เพื่อให้สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนด หลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่รัฐส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาล่าช้า และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในอนาคตอันใกล้ โดยรฟท. ยืนยันว่าได้พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด 

ทั้งนี้ ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 2 ราย ที่ถูกรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างยืนยันว่าจะได้ดำเนินการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อไปยังคณะกรรมาธิการการคมนาคม และคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป