THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

04 พฤษภาคม 2565 : 16:51 น.

ขอนแก่น-ฝ่ายสืบสวนตำรวจภาค 4 ผนึกกำลัง 3 จังหวัดตามรวบคู่หูโจรก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ภาคอีสาน 16 ครั้งเน้นทองและเงินสด ประวัติซี้กันในคุกออกมาก็รวมหัวก่อเหตุหาเงินเที่ยวเตร่

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 ชุดสืบสวนภ.จว.สกลนคร ชุดสิบสวน ภ.จว.หนองคาย และชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสุชาติ แจ่มสว่าง อายุ 29 ปี อยู่บ้าน 26/3 หมู่ 6 ต. หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ที่ จ.62/2565 ลงวันที่ 1 พ.ค.2565 และนายจิรเมธ กระสินธ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/9 หมู่ 9 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสว่างแดนติน ที่ จ.63/2565 ลงวันที่ 1 พ.ค.2565 ในข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอ สีเทา น้ำเงิน ทะเบียน 7 กส -7262 ชลบุรี จำนวน 1 คัน ,พระเครื่องหลวงปู้ทวดเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์ ,พระเครื่องพระครูเทพอุดรเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดทะเบียน จำนวน 1 คัน ,กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว เและสื้อยืดคอกลม สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากข้อมูลการสืบสวนพบว่าช่วงเดือน พ.ย.2564 ถึง มี.ค.2565 ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ในพื้นที่ จ.หนองคาย 8 ครั้ง พื้นที่ จ.อุดรธานี 7 ครั้ง และ จ.สกลนคร 1 ครั้ง รวม 16 ครั้ง ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่เกิดเหตุ โดยผู้เสียหายต่างให้การตรงกันว่า คนร้ายใช้ยานพาหนะ เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดทะเบียน และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอ สีเทา น้ำเงิน ทะเบียน 7 กส- 7262 ชลบุรี ขับขี่เข้าประกบผู้เสียหายแล้วกระชากเอาสร้อยคอทองคำที่สวมใส่อยู่ที่คอ ครั้งล่าสุดก่อเหตุเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 20 บาทจากคอของภรรยาชาวต่างชาติ ในพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

"พฤติกรรมของคนราย 2 รายนี้ มีการดักรอผู้เสียหาย เมื่อสบโอกาสก็ลงมือก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำหรือกระเป๋าจากผู้เสียหาย หากผู้เสียหายมีการขัดขืนก็จะมีการทำร้ายข่มขู่เพื่อชิงเอาทรัพย์ ชุดสืบสวนร่วมบก.สส.ภ.4 และชุดสืบสวนทั้ง 3 จังหวัดร่วมกันทำการสืบสวน เชื่อว่ากลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มแก๊งเดียวกัน เพราะใช้รถจักรยานยนต์ซ้ำๆกัน โดยคนร้ายแต่งกาย มิดชิดสวมใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว และมีการใส่หมวกกันน๊อคแบบเต็มใบเพื่อปิดบังใบหน้า การก่อเหตุเกิดต่อประชาชนจำนวนมาก ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องกัน ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อชีวิตทรัพย์สินและก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง"พล.ต.ท.ยรรยงกล่าว

ผบช.ภ.4 กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันยังคงมีการตรวจสอบจากวงจรปิด ตรวจสอบประวัติข้อมูลอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ของบุคคลพ้นโทษ ลที่มีที่พักอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุทั้ง 16 จุด พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายจิรเมธ และ นายสุชาติมีประวัติในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด วิ่งราวทรัพย์ ลักทรัพย์ และ พยายามฆ่า พ้นโทษมาเมื่อ ก.ย.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามดูพฤติกรรม จนพบว่าทั้ง 2 คน มีภรรยา อยู่ในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีการใช้ ยานพาหนะและเสื้อผ้าที่ตรงกับคนร้ายใช้และสวมใส่ในการก่อเหตุ จึงรวบรวม พยานหลักฐาน ให้พนักงานสอบสวน ขอศาลอนุมัติออกหมายจับทั้ง 2 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สืบทราบว่า บุคคลทั้ง 2 คน ออกนอกพื้นที่ อ.บ้านดุง กลับไปยังบ้านพักในจ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหมายจับ ติดตามจับกุมตัวได้ทั้ง 2 คน ได้ที่จ.ชลบุรี ควบคุมตัวไว้และทำการตรวจค้นและยึดของกลางได้บางส่วน พร้อมรถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

"สอบสวน นายจิรเมธ และนายสุชาติรับสารภาพว่ามีแฟนอยู่ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รู้กันกัน สนิทกันในเรือนจำ เมื่อออกจากเรือนจำมาก็มีแฟน ในอำเภอเดียวกัน จึงร่วมกันวางแผนและก่อเหตุขึ้นจริง ในการก่อเหตุจะยืมรถจักรยานยนต์จากคนรู้จักกัน นำมาเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ โดยจะเลือกเอาเฉพาะทองรูปพรรณที่ผู้เสียหายสวมใส่และเงินสดเท่านั้น ส่วนทองรูปพรรณที่ได้มา ก็ตระเวนขายในจังหวัดอื่นและขายในร้านทองที่กทม.นำเงินมาแบ่งกันใช้จ่าย เที่ยวเตร่ไปทั่ว เมื่อเงินหมดก็จะย้อนกลับไปหาแฟนและร่วมกันก่อเหตุซ้ำอีก"ผบช.ภ. 4 กล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ