ปัตตานี-ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันอีดิ้ลฟิตริอย่างคึกคักหลังทางการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลอีดิ้ลฟิตรีปีฮิจเราะห์ศักราช 1443 ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างชื่นมื่น และคึกคักเป็นพิเศษ หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการล๊อกดาวน์ และมาตรการป้องกันโควิด-19 แบบเข้มงวด หลังจากพบมีสถิติการติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองเต็มด้วยรอยยิ้ม โดยชาวมุสลิมในพื้นที่เริ่มออกเดินทางจากบ้านเพื่อร่วมประกอบพิธีละหมาดอีดิ้ลฟิตรีตามมัสยิดและลานละหมาดที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างพร้อมเพรียงกันตั้งแต่เวลา 07.00 น.

ทั้งนี้ มีการร่วมสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของเอกองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) หรือกล่าวคำตัษบียะห์ก่อนที่อีหม่ามจะขึ้นนำละหมาด จากนั้นก็จะมีอ่านคูตบะห์เพื่อปลูกใจให้ประชาชาติเป็นบ่าวที่ยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า(ซบ.)กระทำแต่ความดีไม่ประพฤติชั่ว ช่วยแจกทานแก่ผู้ยากไร้ เด็กกำพร้า จากนั้นผู้ร่วมละหมาดจะเข้าสวมกอดกันเพื่อแสดงถึงความรักความสามัคคี รวมถึงการให้อภัยกันและกันทั้งกายและใจ ก่อนที่ทุกคนจะทยอยกลับไปเลี้ยงอาหารเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสวันตรุษอีดิ้ลฟิตรี

สำหรับ บรรยากาศที่มัสยิดกรือเซะ มีบรรดาพี่น้องมุสลิมจากหลายพื้นที่เดินทางเข้ามาร่วมประกอบพิธีละหมาดอย่างคึกคักเนืองแน่น มีการเฉลิมฉลองด้วยการแต่งกายสวมชุดมาลายูเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมของคนมาลายูปาตานีที่เคยมีมาอย่างช้านาน นอกจากนั้นมีการเซลฟี่ถ่ายรูปอวดกันและกัน เพื่อแสดงถึงการร่วมรณรงค์เป็นการปักมุขให้พี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ลูกหลานร่วมกันแต่งกายชุดมาลายูเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองวันฮารีรายอ ทำให้เทศกาลอีดิ้ลฟิตรีทุกพื้นที่บูมด้วยการแต่งการชุดมาลายูอย่างหลากหลายสี

อย่างไรก็ตาม บางครอบครัวแต่งเป็นทีมสีเดียวกัน ทำให้ปีนี้มีความคึกคักเป็นพิเศษ นอกจากมีการร่วมรณรงค์แต่งกายชุดมาลายูเป็นการเฉลิมฉลองแล้วมีในหลายพื้นที่ หมู่บ้าน ของจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการประกวดหมู่บ้านด้วยการสร้างซู้มประตู หรือประตูชัยแบบมาลายูโบราณและแต่งประดับประดาด้วยไฟกระพริกอย่างสวยงาม