ตำรวจ สภ.นางรองนำหมายศาลเข้าจับกุมเยาวชนชายอายุ 14 ปีลวงลูกสาวทหารเรือวัยเดียวกันกระทำชำเราในรีสอร์ท 3 ครั้งหลังถูกญาติร้องเรียนแจ้งความ 5 เดือนแล้วคดีไม่คืบ
ความคืบหน้ากรณีครอบครัวทหารเรือชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมหลังจาก ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ลูกสาวถูกวัยรุ่นชายรู้จักกันทางเฟซบุ๊กล่อลวงไปกระทำชำเราในรีสอร์ทรวม 3 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธันวาคม 2564 หลังเกิดเหตุผู้ปกครองได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นางรอง แต่เวลาล่วงเลยไปนานกว่า 5 เดือนแล้วเรื่องยังเงียบ เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ออกมาร้องเรียนและเตรียมเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก “มูลนิธิปวีณาฯ”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นำหมายศาลจังหวัดนางรอง เข้าจับกุม ด.ช.เอ็ม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน อ.ชำนิ ในฐานความผิด “พรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร โดยขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , กระทำอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ก่อนจะนำตัวส่งให้ ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง เจ้าของคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้น ด.ช.เอ็ม ยอมรับว่าได้มีสัมพันธ์กับ ด.ญ.เอ ผู้เสียหายจริงตามประสาวัยรุ่นด้วยการนัดเจอกันที่รีสอร์ท 3 ครั้ง ไม่ได้มีการบังคับหรือใช้กำลังแต่อย่างใดเป็นการสมยอมทั้งสองฝ่าย แต่หลังจากที่ครอบครัวฝ่ายหญิงแจ้งความเอาผิดก็ไม่ได้ติดต่อกับฝ่ายหญิงอีกเลย
ด้านนายวิเชียร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ตาของ ด.ช.เอ็ม กล่าวว่า จากการสอบถามหลานก็ยอมรับว่ามีอะไรกับฝ่ายหญิงจริงแต่ไม่ได้บังคับ เมื่อครอบครัวฝ่ายหญิงแจ้งความดำเนินคดีก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะครอบครัวฐานะยากจนไม่มีปัญญาจะหาเงินไปจ่ายค่าเสียหายตามที่เรียกร้อง ตอนนี้ก็มีเงินติดตัวแค่ 5,000 บาท เตรียมจะมายื่นขอประกันตัวหลาน แต่ไม่รู้ว่าตำรวจจะให้ประกันตัวหรือไม่ ถ้าไม่ให้ประกันก็ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงทำอะไรไม่ได้
ขณะที่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันในชั้นสอบสวน หลังจากสอบสวนปากคำเสร็จก็จะนำตัวส่งฝากขังที่ศาล ส่วนจะให้ประกันหรือไม่ก็ขึ้นกับดุลยพินิจของศาล