THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

11 เมษายน 2565 : 11:21 น.

สงขลา-ตำรวจภููธรภาค 9 บุกทลายแหล่งรับจำนำรถยนต์รายใหญ่เจอรถ 28 คันส่วนใหญ่ยังติดไฟแนนท์ เตือนคนที่นำรถที่ยังติดไฟแนนท์มาจำนำมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ต้องผ่อนลมและถูกดำเนินคดีด้วย 

เมื่อวันที่ 10 เมษายน พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วันกิตติ ทินนิมิตร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.9 พร้อมตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9  นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด บริเวณบ้านเลขที่ 32 ซอยประชาร่วมใจ 1 ถนนขวัญประชา หมู่ 4  ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ทั้งนี้ ในบ้านหลังดังกล่าวพบรถยนต์กระบะ รถยนต์เก๋ง จำนวน 28 คันจอดอยู่ทั้งภายในโกดังและที่บริเวณบ้านอีกหลัง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน จากการตรวจสอบรถพบว่า  ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ติดสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทสินเชื่อ และยังพบเอกสารการกู้ยืมเงินซึ่งเป็นชุดโอนลอย โดยมีรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 32 ชุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอรุณ ขุนอักษร อายุ 43 ปี ชาว ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ลูกเขยของบ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น 

จากการสอบสวนเอกสารพบว่า รับจำนำรถยนต์โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 120 ต่อปี เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกาหนด ร้อยละ 15 ต่อปี  โดยนายอรุณ จะนำรถที่รับจำนำไว้มาฝากไว้ที่บ้านแม่ยายและในโกดังที่สร้างเป็นเป็นรั้วสังกะสีปิดทึบ และบางส่วนฝากจอดไว้ที่เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน และมีการนำถุงพลาสติดสีดำมาปิดแผ่นป้ายทะเบียนไว้

สอบถามนายอรุณ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองประกอบธุรกิจรับจำนำรถมาได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้ขออนุญาตจากนายทะเบียน รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นรถที่ตนเองรับจำนำไว้ ซึ่งได้ทำสัญญากู้ยืมเงินไว้กับลูกค้า และคิดดอกเบี้ยจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งควบคุมตัวนายอรุณ พร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้ฝากเตือนไปยังผู้ที่นำรถยนต์ที่ยังผ่อนหรือเช่าซื้ออยู่ไปจำนำ อาจเข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถคือ สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อ หรือไฟแนนซ์ และปัญหาใหญ่คือหากเจอผู้รับจำนำที่ไม่มีความซื่อสัตย์ หรือมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาหลอกลวงเพื่อเอารถไปขายต่อ อาจขายในรูปแบบรถหลุดจำนา แยกชิ้นส่วนขาย หรือส่งรถทั้งคันออกนอกประเทศ สุดท้ายสถาบันการเงินเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะมาไล่เบี้ยค่าเสียหายกับโดยตรงกับผู้ที่นำไปจำนำ และยังคงต้องผ่อนรถต่อไปทั้งที่รถไม่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเอารถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไปจำนา หรือขายนอกระบบ เพราะนอกอาจจะเสียรถไปแล้ว ยังอาจตกเป็นผู้ต้องหาด้วย 

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ