ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์กระทรวงพม.เข้าเยี่ยม

จากกรณีตำรวจ ปทส.ร่วมกับชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ขณะนัดส่งมอบ “ลูกเสือโคร่ง” สัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 1 ตัว อ้างนำมาจากต่างประเทศ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 5 เม.ย. จากนั้นกรมอุทยานแห่งชาติฯได้ส่งลูกเสือโคร่งของกลางให้เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวากดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้โดยรวมมีอาการดีขึ้น

เมื่อวันที่ 9 เมษายน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เข้าเยี่ยม "น้องขวัญ"ลูกเสือโคร่งวัยประมาณ 2 เดือนที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากฯ โดยยืนยันว่า เรื่องทางคดีขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะในยุคนี้กระทรวงทส. เอาจริงเอาจังกับการจับพวกลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้พิจารณาแล้วว่า ศูนย์บึงฉวากฯมีความพร้อมที่สุดที่จะส่งลูกเสือมาเลี้ยง เพราะที่นี่เคยเลี้ยงลูกเสือ ลูกสิงโตมาจนโตแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนี้เลิกผสมพันธุ์แล้วแยกเพศผู้เพศเมีย ไม่ให้เพิ่มจำนวน เจ้าหน้าที่ที่เลี้ยงลูกเสือลูกสิงโตจึงมีความชำนาญมาก มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ อีกทั้งมีสัตวแพทย์ อยู่ใกล้โรงพยาบาลสัตว์กำแพงแสน อยู่ใกล้กรุงเทพฯ จึงถือว่ามีความพร้อมมาก ตนมาดูสุขภาพของน้องขวัญ และดูว่าขาดเหลืออะไร นมชนิดพิเศษที่ให้กินตอนนี้คือ นม KMR ชนิดผง สำหรับลูกแมว ลูกเสือ ซึ่งน้องขวัญกินจุมาก ถ้าเอฟซีต้องการสนับสนุนก็สามารถส่งมาได้

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ขณะนี้น้องขวัญอายุเกือบ 2 เดือน นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เจาะเลือดไปตรวจ DNA หาสายพันธุ์ที่แท้จริงแล้วต้องรอผลจะได้รู้ถิ่นกำเนิด หากน้องขวัญโตมากขึ้นก็จะค่อยดูว่าจะให้ขยับไปอยู่ในจุดไหนของศูนย์บึงฉวากฯ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางก็ต้องค่อยๆวางแผนกันไป แต่ก็ต้องยอมรับว่า เป็นที่น่าเสียใจที่น้องขวัญจะไม่สามารถกลับคืนสู่ป่าได้ ต้องเป็นเสือในกรงเลี้ยงตลอดไป เพราะไม่มีแม่สอนสัญชาตญาณการล่าสัตว์ เราต้องทำใจและเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ จากการเยี่ยมในวันนี้น้องขวัญมีสุขภาพร่างกายดีขึ้นมาก มีพี่เลี้ยงดูแลตลอด 24 ชั่วโมง คนที่เลี้ยงดูนั้นก็มีความชำนาญในการเลี้ยงเสือมาก น้องขวัญเองก็คุ้นเคยพี่เลี้ยง ติดพี่เลี้ยง และซนไม่เบา ส่งเสียงแว๊ดๆได้ ตนเองยึดหลักการไม่ให้สัตว์ต้องอยู่ในที่แคบ เขาต้องมีที่วิ่งเล่นได้พอควร มีอาหารกินไม่อดอยาก เคยมีนักท่องเที่ยวบางคนคอมเม้นต์ว่า เห็นเสือบางตัวผอม อันนี้ก็ต้องเข้าใจว่าเสือบางตัวป่วยอายุมาก ก็มีที่ผอมเพราะสุขภาพร่างกายเขา ไม่ใช่เพราะขาดอาหาร

สำหรับ งบประมาณอาหารของกรมฯ ที่ต้องดูแลศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และศูนย์บึงฉวาก รวม 27 แห่งทั่วประเทศ ต้องดูแลสัตว์ป่าทั้งสิ้น 26,065 ตัว ในปีงบประมาณ 2565 ถูกตัดไปกว่า 85 % จาก 90 ล้านบาท เหลือเพียง 12.7 ล้านบาท ขอฝากสำนักงบประมาณว่าสัตว์พูดไม่ได้แต่เขาต้องกิน ขณะที่มีการจับคู่ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ทำให้มีสัตว์ของกลางจำนวนเพิ่มมากขึ้น และต้องเข้ามาอยู่ในความดูแลของกรมฯ จึงอยากขอความกรุณาสำนักงบประมาณอย่าตัดงบฯปี 2566 ของสัตว์เลย

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ฝากข้อคิดไว้ว่าเสือที่เลี้ยงไม่ว่าจะในสวนสัตว์หรือที่ต่างๆ การสำรวจประชากรพบว่ามีประมาณ 1,400-1,500 ตัว ซึ่งเสือเหล่านี้เกิดจากการผสมพันธุ์เพื่อการค้า เพื่อการจัดแสดง เป็นการผสมกันในครอบครัวที่ใกล้กันจึงทำให้ลูกที่ออกมานั้นไม่แข็งแรง ในขณะที่เสือในป่าซึ่งทำให้ระบบนิเวศสมดุลในธรรมชาติเองมีสถิติประมาณ 250 ตัวเท่านั้น เทียบกันไม่ได้ จึงอยากให้มีการพิจารณาอย่างจริงจังว่าให้เลิกการผสมพันธุ์เพาะพันธุ์เสือในที่เลี้ยงเพื่อการค้าได้แล้ว เพราะสิ่งที่เราต้องการคือ เสือที่เกิดในระบบธรรมชาติในป่ามากกว่า