"สรรเสริญ"ชี้ปัจจัยพาไทยขึ้นชั้นตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์อาเซียน เผยสัญญาณบวกผู้ค้าสหรัฐฯ และญี่ปุ่นสนใจมากขึ้น ยกงาน ”สไตล์บางกอก” เป็นหนึ่งในแพลทฟอร์มใหม่ที่สำคัญของเอสเอ็มอี พร้อมเปิดตัวเลขส่งออกล่าสุด 8 เดือนแรกปีนี้ทำรายได้แล้วสูงถึง 8,244 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ดร.สรรเสริญ สมะลาภา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้า “สไตล์บางกอก และอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ไทย ครั้งที่ 5 ซึ่งงานจะจัดถึงวันที่ 21 ตุลาคม โดยงานแสดงสินค้าประกอบด้วย 3 งานใหญ่คือ หนึ่ง งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง (Biff&Bil) สอง งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน Big +BIH และสาม งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ TIFF โดยเริ่มจัดครั้งแรกในปี 2560
ดร.สรรเสริญ เปิดเผยว่า แนวโน้มสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ ไทยมีศักยภาพขึ้นชั้นในอาเซียน จากหลายปัจจัยหนุน อาทิ อัตราการขยายตัวที่ต่อเนื่องของสินค้าในกลุ่มนี้ สินค้าไทยได้รับความสนใจในตลาดสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ผู้ประกอบการไทยมีการพัฒนายกระดับไปเป็นเจ้าของแบรนด์ของตัวเองและสามารถนำเสนอสินค้าที่ตรงกับกระแสความนิยม เป็นผลจากการวางกลยุทธ์ตามนโยบายเพิ่มมูลค่าสินค้าและเร่งรัดการส่งออกของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว. กระทรวงพาณิชย์
กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวด้วยว่า มีสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ของไทย อาทิ สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทยได้รับความสนใจในตลาดสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมากขึ้น โดยเห็นได้ชัดเจนจากสถิติกลุ่มลูกค้าจากทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วมงาน “สไตล์บางกอก” เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า และการเปิดตลาดใหม่ๆ เช่นตลาดของใช้ในโรงแรม สินค้าตลาดผู้สูงอายุ ตลาดธุรกิจแต่งงานของกลุ่มลูกค้าจากอินเดียที่นิยมจัดงานแต่งงานในประเทศไทย และสินค้าโอทอปที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น “ที่สำคัญผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานกว่า 90% เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และงานนี้ยังถือเป็นแพลทฟอร์มที่ส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหน้าใหม่อีกด้วย ซึ่งการขยายตัวของตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์จะหนุนการส่งออกในภาพรวม” ดร.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ความพิเศษของงานสไตล์บางกอกปีนี้คือ นิทรรศการ สไตล์ เดอ บางกอก โชว์เคส โฮเท็ล โชว์เคส ที่นำเสนอตัวอย่างสินค้าไทยในห้องต่างๆ ของโรงแรม และการสัมมนาที่มีผู้ประกอบการโรงแรมแนวหน้าเข้าร่วม อาทิ กลุ่ม ONYX Hospitality Group ซึ่งมีโรงแรมเครืออมารี (หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของเครือบริษัทอิตัลไทย) กลุ่มโรงแรมไมเนอร์ กลุ่มโรงแรมเบสเวสเทิร์น กลุ่มโรงแรมสิงห์เอสเตท และสมาคมมัณฑนากร ร่วมแบ่งปันมุมมองการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการค้า
สำหรับ งานสไตล์บางกอกครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจาก 70 ประเทศทั่วโลก มีผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 50,000 คน และกระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมจากตลาด อาทิ เครื่องใช้สำนักงาน บนโต๊ะอาหารและในครัว ส่วนสินค้าแฟชั่น เช่น เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ตลาดสำคัญ 5 อันดับแรกคือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม และ อินโดนีเซีย
นอกจากนั้น ในปี 2561 สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทย มีมูลค่าการส่งออกรวม 12,327 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 5% ของมูลค่าการส่งออกรวม และ 8 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม - สิงหาคม) ส่งออกไปแล้ว 8,224.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาขยายตัว 42.8% และ 8.8% ตามลำดับ