“นิทรรศการภาพถ่ายมิตรภาพไทย – ตุรกี” ณ กรุงอังการา นำภาพงดงามประทับใจในประเทศไทยของคณะตุรกี จัดแสดงสู่สายตาสาธารณชนตุรกี
นับเป็นอีกหนึ่งโครงการในการส่งเสริมและสานต่อความสัมพันธ์ไทย - ตุรกี เมื่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา โดยความร่วมมือกับสำนักงานเทศบาลเขต Cankaya กรุงอังการา ได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายมิตรภาพไทย - ตุรกี ภายใต้ชื่อ “Thailand through Turkish Eyes / Turkey through Thai Eyes” ขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 10 มิถุนายน 2564 ณ หอศิลป์ Dogan Tasdelen Cagdas Sanatler Merkezi
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดพิธีเปิดนิทรรศการฯ ขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 100 คน จากคณะทูตอาเซียนประจำกรุงอังการา ผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ รวมถึงมิตรประเทศไทย (Friends of Thailand) เข้าร่วมพิธีเปิดภายใต้ข้อกำหนดตามมาตรการป้องปรามการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ของรัฐบาลตุรกี โดยถือเป็นกิจกรรมสาธารณะของสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศในตุรกีที่จัดขึ้นเป็นกิจกรรมแรก ๆ ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาลตุรกีตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
“ในภาษาไทย มีสำนวนว่า ‘สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น’ ดังนั้น แม้หลายคนอาจจะได้มีโอกาสได้ยินและได้รับฟังเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับประเทศไทยมาแล้ว แต่คงเทียบไม่ได้กับการได้เห็นด้วยสายตาของตนเอง ด้วยเหตุนี้ สถานเอกอัครราทูต ณ กรุงอังการา จึงภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำเสนอภาพจากประเทศไทย จากฝีมือการถ่ายภาพโดยนักวิชาการและสื่อมวลชนชั้นนำของตุรกีที่เคยร่วมโครงการของสถานเอกอัครราชทูตฯ เดินทางเยือนไทย ให้สาธารณชนตุรกีได้ชม” นายชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล อุปทูต รักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา กล่าวในช่วงหนึ่งของการกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในช่วงพิธีเปิด
“ภาพถ่ายจากประเทศไทยเหล่านี้ ครอบคลุมหลากหลายมิติ ไม่ว่า จะเป็นบ้านเมือง สถานที่ท่องเที่ยว วิถีชีวิต อาหาร ฯลฯ จากสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ทางภาคใต้ หรือเชียงใหม่ทางภาคเหนือ ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมของไทย แต่ยิ่งไปกว่านั้น ภาพถ่ายเหล่านี้ สะท้อนถึงความคล้ายคลึงกันของสังคมไทยและตุรกี ไม่ว่า จะเป็นความเป็นมิตร ความเอื้ออาทร และการต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น ซึ่งทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศต่างรู้สึกปลอดภัยและเหมือนอยู่ที่บ้านตัวเองเมื่อได้เดินทางไปเยือนอีกประเทศหนึ่ง” อุปทูต ชาครีย์นรทิพย์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 นั้น ไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของชาวตุรกี โดยมีนักท่องเที่ยวตุรกีไปเยือนประเทศไทยเฉลี่ยปีละประมาณ 60,000 คน ในขณะเดียวกัน ก็มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวในตุรกี เฉลี่ยปีละประมาณ 50,000 คนเช่นกัน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้จัดโครงการเชิญนักวิชาการและสื่อมวลชนชั้นนำตุรกีเยือนไทยในปี 2561 ในโอกาสฉลองการครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ตุรกี และต่อยอดในปี 2562 ซึ่งโครงการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทยกับตุรกีแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมคณะฯ ชาวตุรกีได้เห็นและสัมผัสถึงความงดงามของไทยด้วยตนเองเพื่อที่จะสามารถกลับมาบอกเล่าแก่ชาวตุรกี และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป โดยในภาพถ่ายประเทศไทยของคณะตุรกี นั้น มีการนำเสนอภาพถ่ายการเยือนหมู่บ้านทรายขาว จังหวัดปัตตานี ภาพถ่ายเรือกอและ ภาพถ่ายเศียรพระพุทธรูปในรากไม้ในวัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น
ทั้งนี้ ในส่วนของภาพถ่ายประเทศไทยโดยฝีมือของชาวตุรกี นั้น ประกอบด้วยภาพถ่ายโดยนักวิชาการชั้นนำได้แก่ Prof. Dr. Hüseyin Bağci, ประธานสถาบันนโยบายการต่างประเทศ, Prof. Dr. Tanju Tosun and Prof. Dr. Gülgün Erdoğan Tosun จาก Ege University, Asst. Prof. Dr. Berk Esen จาก Sabanci University รวมถึงภาพถ่ายจากเอกชนชั้นนำของตุรกี อาทิ นาย Mr. Serhat Önalp, บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Diplomatic Observer, Mr. Haşim Kilic, ช่างภาพมือรางวัลจากหนังสือพิมพ์ Hurriyet, Mr. Ferhat Yüksel, บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Demarche Magazine, Ms. Funda Karayel จากหนังสือพิมพ์ Sabah, Ms. Sema Akbaş จากนิตยสาร Bitter, และ Mr. Mustafa Kirikcioğlu จากหนังสือพิมพ์ Sabah
ภาพถ่ายอีกส่วนหนึ่งของนิทรรศการฯ คือ ภาพของตุรกีที่ถ่ายโดยนักการทูตไทยและคู่สมรสที่ประจำการอยู่ในตุรกีในปัจจุบัน ได้แก่ นายชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล อุปทูตฯ / นางบังอร เสวิกุล ภรรยาของนายชาครีย์นรทิพย์ฯ / นางสาวณัฏฐมน ปั่นโพชา เลขานุการเอก / นายธีรวัฒน์ ว่องแก้ว เลขานุการเอก / นางสาวสุชญา ตันเจริญผล ภรรยาของนายธีรวัฒน์ฯ / นางสาวอนีสสา นาคเสวี เลขานุการโท / นางสาวอมรรัตน์ คงชู เลขานุการโท และนายสมภพ เกิดมี คู่สมรสนางสาวอมรรัตน์ฯ เพื่อแสดงให้สาธารณชนตุรกีเห็นถึงมุมมองของนักการทูตต่างประเทศที่มีต่อประเทศของพวกตน
ภายหลังการสิ้นสุดลงของนิทรรศการฯ ผู้บริหารหอศิลป์ Dogan Tasdelen Cagdas Sanatler Merkezi ได้กล่าวขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตฯ สำหรับความคิดริเริ่มนี้ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกระหว่างสถานเอกอัครราชทูตไทย กับหอศิลป์ฯ และกล่าวว่าตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ของการจัดแสดงนิทรรศการฯ มีผู้เข้าชมนิทรรศการกว่า 500 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์และข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19