กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานมี 50 จังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนอง บ้านเรือนเสียหาย 7,834 หลัง วัด 3 แห่ง เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 7 ราย
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 64 – ปัจจุบัน เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงลูกเห็บตก และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 50 จังหวัด รวม 229 อำเภอ 572 ตำบล 1,471 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7,834 หลังวัด 3 แห่ง รวมถึง กทม. 1 เขต 1 แขวงผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 7 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัดซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง(กอปภ.ก.) รายงานหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่บริเวณทะเลอันดามันประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ในห้วงวันที่ 31 มี.ค. 2564 – 15 เม.ย. ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 50 จังหวัด รวม 229 อำเภอ 572 ตำบล 1,471 หมู่บ้าน 2เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7,834 หลัง วัด 3 แห่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 2 ราย (น่าน 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย)ผู้บาดเจ็บ 7 ราย (น่าน 1 ราย สุรินทร์ 4 ราย พิจิตร 1 ราย เชียงราย 1 ราย)
ทั้งนี้ แยกเป็นภาคเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์รวม 75 อำเภอ 222 ตำบล 756 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4,986 หลังผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 3 ราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคามร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวม 91อำเภอ 207 ตำบล 398 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,756 หลัง ผู้เสียชีวิต1 ราย ผู้บาดเจ็บ 4 ราย
ภาคกลาง 12 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานีสมุทรปราการ สมุทรสาคร และราชบุรี รวม 48 อำเภอ 112 ตำบล 241 หมู่บ้านบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 912 หลัง วัด 2 แห่ง
ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม14 อำเภอ 31 ตำบล 76 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 150 หลัง
ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต รวม 1 อำเภอ 1 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 30 หลังปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
อย่างไรก็ตาม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784”โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป