NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

15 พฤศจิกายน 2563 : 10:43 น.

บี.กริม ผนึก WWF กรมอุทยานฯ เปิด “ศูนย์การเรียนรู้ ส.เสือวิทยา” โครงการต้นแบบปลูกจิตสำนึกเด็ก เยาวชน เพื่อการอนุรักษ์เสือโคร่ง และสัตว์ป่า

บี.กริม ผู้สนับสนุนหลักขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF ประเทศไทย) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และอุทยานแห่งชาติคลองลานมากว่า 7 ปี ล่าสุดได้สนับสนุนการเปิดศูนย์การเรียนรู้ “ส.เสือ วิทยา” (Tiger Learning Center) ณ โรงเรียนอนุบาลคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติ คลองลาน แหล่งที่อยู่อาศัยหลักของเสือโคร่ง และเขตพื้นที่หลักในการอนุรักษ์ เสือโคร่งในประเทศไทย

สำหรับศูนย์การเรียนรู้ ส.เสือ วิทยา เป็นพื้นที่การเรียนรู้ขนาดใหญ่ จัดแสดงเรื่องราวการอนุรักษ์ ธรรมชาติ โดยเฉพาะข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับเสือโคร่งและสัตว์ป่าสำหรับเด็กนักเรียน และผู้สนใจทั่วไป มีการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรด้านงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงบูรณาการเนื้อหาการอนุรั กษ์สัตว์ป่าเข้าไปกับวิชาต่างๆ ตามเป้าหมายเพื่อสร้างเป็นศูนย์ ต้นแบบในการปลูกจิตสำนึกให้เด็ก และเยาวชน ตลอดจนบุคคลในพื้นที่ในการอนุรักษ์เสือโคร่งและสัตว์ ป่า โดยได้รับความร่วมมือจากสำนั กงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชรเขต 2 และโรงเรียนอนุบาลคลองลาน สนับสนุนพื้นที่จัดตั้งศูนย์ดังกล่าว

บี.กริม เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ รวมถึงการปกป้องพิทักษ์ผืนป่า โดยให้การสนับสนุน WWF ประเทศไทย และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินงานในหลากหลายด้านเพื่อฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ งในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนกิ จกรรมการฝึกอบรมลาดตระเวนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า, การสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติงานลาดตระเวน, การช่วยฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศั ยของสัตว์ป่า ตลอดจนสนับสนุนการรณรงค์อนุรักษ์สัตว์ป่าในโรงเรียน ชุมชน และค่ายเยาวชน  

ดร.รุ้งนภา พูลจำปา ผู้จัดการโครงการฟื้นฟู ประชากรเสือโคร่ง WWF ประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์การเรียนรู้ ส.เสือวิทยา เปรียบเสมือนศูนย์ตั้งต้นในการเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่า สร้างให้เด็กเกิดความรู้สึกผู กพันกับสัตว์ป่า และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ ซึ่งอนาคตมีแผนเปิดศูนย์เรียนรู้ ส.เสือวิทยา ในพื้นที่ใกล้เขตอุทยานแม่วงก์เพิ่มเติม รวมถึงขยายไปยังพื้นที่ซึ่งอยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ให้เกิดขึ้นในวงกว้าง

ดร.รุ้งนภา กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดปัจจุบันประเทศไทย มีจำนวนเสือโคร่งในป่าธรรมชาติ ประมาณ 130-160 ตัว พบได้หนาแน่นมากที่สุดบริเวณผืนป่าตะวันตก ครอบคลุมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้งอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และอุทยานแห่งชาติคลองลาน โดยมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งบ่งบอกว่าแนวทางการอนุรักษ์ ที่ผ่านมาเดินมาถูกทาง อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายยังคงต้องเข้มข้นในการดำเนินงาน เนื่องจากการลักลอบล่าสัตว์ป่ายังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน    

ด้านนายธวัชชัย เพชระบูรณิน ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กิจกรรมที่กรมอุทยานฯ เน้นคือการปลูกจิตสำนึกให้กับชาวบ้านในชุมชนที่อาศัยอยู่รอบเขตอุ ทยานแห่งชาติ เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่า อย่างไรก็ตาม ด้วยความจำกัดด้านเวลาที่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ทำให้การเข้าไปจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทางกรมจึงปรับแผนหันมาให้ความสำคัญกับการปลูกจิตสำนึกเด็กและเยาวชน ผ่านการเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ  โดยตรงกับโรงเรียนซึ่งพบว่าได้ ผลอย่างมาก

“เมื่อเด็กเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ก็จะกลายเป็นกระบอกเสียง สื่อสารไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง ทำให้ชุมมชนในพื้นที่หันมาให้ ความสำคัญกับการปกป้องชีวิตสัตว์ป่ามากขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ งานอนุรักษ์ และฟื้นฟูจำนวนสัตว์ป่าประสบความสำเร็จ” นายธวัชชัย กล่าวทิ้งท้าย

กองบรรณาธิการ M2F

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ