ททท.ภูเก็ตเผยช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน คาดเงินสะพัดเกือบ 2,000 ล้าน
นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน น่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง ซึ่งอัตรานักท่องเที่ยวชาวไทยที่ประสงค์จะเข้ามาจ.ภูเก็ตในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 44% ขณะที่ต่างชาติจะพบว่ามีปริมาณเป็นบวกขึ้นจากปีที่ผ่านมา ตัวเลขปัจจุบันอยู่ที่ 11%
สำหรับ รายได้ ในช่วงถือศีลกินเจตลอดทั้ง 9 วัน 9 คืน ประมาณการไว้ว่าอยู่ที่ 500 ล้านบาท เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น แต่หากคิดรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่จะเข้ามาในช่วงเวลานั้นแล้ว รวมการท่องเที่ยวทางทะเลเข้าไปด้วย รายได้น่าจะอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นรายได้ที่กระจายสู่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการท้องถิ่นด้วย
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายหลักๆ นอกเหนือจากค่าที่พักแล้ว ก็จะเป็นในเรื่องของอาหารการกิน ทั้งอาหารเจบริเวณหน้าศาลเจ้า และมีในส่วนของร้านค้าอื่นๆ โรงแรมในบริเวณที่ใกล้เคียงกับศาลาเจ้า และโรงแรมต่างๆ จนถึงขณะนี้ก็ยังพอมีห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะจองเข้าพักก่อนประเพณีถือศีลกินผักอีกพอสมควร
ด้าน นายศิวัฒน์ สุวรรณวงศ์ นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า เฉพาะในวันที่ 13-14 ต.ค. มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์จองห้องพักแล้ว 80% ของห้องพักทั้งหมด 1.3 หมื่นห้อง คาดว่าจะเต็มในช่วงใกล้ เม็ดเงินสะพัดเทศกาลกินเจประมาณ 70-80 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาผักเทศกาลกินเจตามที่ต่างๆ ต่างขึ้นราคา เช่น ที่ จ.นครราชสีมา ภายในตลาดสดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ราคาผักได้ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 10-15 บาท เช่น คะน้า จากกิโลกรัมละ 40 บาทขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 45 บาท
นายเพชร รานอก อายุ 45 ปี พ่อค้าแผงผักตลาดสดแม่กิมเฮง กล่าวว่า ราคาผักในปีนี้ไม่ได้มีราคาสูงมากเหมือนอย่างปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วได้เกิดน้ำท่วมพืชผักจนเสียหาย แต่ปีนี้ไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วม