เทคโนโลยีโดรนช่วยลดเวลาและทำให้การสำรวจของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีโดรนช่วยลดเวลาและทำให้การสำรวจของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบันหลายอุสาหกรรมได้หันมาใช้เทคโนโลยีโดรนเป็นส่วนหนึ่งในตัวช่วย เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เหมืองแร่และพลังงาน และจะดีกว่าไหมถ้าหากคุณสามารถประหยัดได้ทั้งงบประมาณและเวลา ซึ่งยังสามารถได้ผลลัพท์ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยีโดรนที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการสำรวจโดยเฉพาะ ประโยชน์และข้อดีในการนำเทคโนโลยีโดรนมาใช้นั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณเลือกใช้ให้เหมาะสม แต่สำหรับโดรนการสำรวจแล้วสิ่งที่สำคัญหลักๆ นั่นก็คือ การวัดและได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเป็นการช่วยให้ทีมสำรวจเข้าถึงพื้นที่ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย ทำให้การสำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยช่วยลดเวลาในการสำรวจพร้อมทั้งได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ
การวัดที่แม่นยำและข้อมูลที่ถูกต้อง
การที่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการรวบรวมและรวมไปถึงทั้งการใช้ทรัพยากรมนุษย์หรือเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่แม่นยำที่สุด แต่ถ้าหากคุณได้นำเทคโนโลยีโดรนมาเป็นหนึ่งในตัวช่วยนั้นจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลต่างๆ สามารถนำมาใช้ได้ภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง และโดรนยังมาพร้อมกับคุณสมบัติอื่นอีก เช่น กล้องที่มีความละเอียดสูงและฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะช่วยให้โดรนสามารถสร้างข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำได้หลายพันจุดในการบิน ไม่ว่าจะเป็น ความสูง ภูมิศาสตร์ และที่ยิ่งมากไปกว่านั้น ยังสามารถช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแบบจำลอง 3 มิติได้อีกด้วย
การเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในการทำแผนที่
ความลาดชันจากพื้นที่หรือความไกลห่างล้วนเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทีมนักสำรวจต้องพบเจอ และนั่นหมายความว่าจะทำให้ใช้เวลาในการสำรวจเพิ่มขึ้น เนื่องจากทีมสำรวจจำเป็นต้องระมัดระวังในการเดินทางมากขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดจากสภาพภูมิประเทศหรือสภาพอากาศ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าคุณได้นำเทคโนโลยีโลยีโดรนมาเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการสำรวจ ซึ่งทำให้การสำรวจของคุณรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่นักสำรวจไม่จำเป็นต้องทำงานในสถานการณ์ที่มีมีความเสี่ยงสูงอีกต่อไป
การสำรวจมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดรนสำหรับการสำรวจนั้นสามารถตั้งโปรแกรมการบินและสร้างแผนที่ได้โดยอัตโนมัติ โดยเส้นทางการบินที่ถูกตั้งโปรแกรมอัตโนมัติจะช่วยลดเวลาในการสำรวจและทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยขนาดและความเร็วของโดรนนั้นจะช่วยให้นักบินสามารถบินผ่านพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและรวมไปถึงพื้นที่ทางอากาศที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์
ช่วยลดเวลาการสำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำแผนที่สำรวจนั้นคือ การที่เราจะสามารถได้ข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็วและทันท่วงที เนื่องจากสภาพไซต์งานมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและนั่นก็อาจจะทำให้ข้อมูลเก่าอาจไม่ถูกต้องนัก แต่ปํญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการนำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ในการรวมรวมข้อมูลได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลารอหลายสัปดาห์เพื่อประมวลผลข้อมูลแผนที่อีกต่อไป และที่ดีมากไปกว่านั้นคุณยังสามารถอัพเดทข้อมูลได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ
Matrice 300 RTK (M300 RTK) - โดรนสำหรับการสำรวจที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง
M300 RTK โดรนที่ถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจสำรวจโดยเฉพาะ ทำให้การสำรวจมีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำสูง ซึ่งโดรนรุ่นนี้มีฟีเจอร์ที่ทำให้การสำรวจของคุณเป็นไปในแบบที่คุณต้องการได้ เช่น Pinpoint โดยคุณสามารถเลือกปักหมุดหรือทำเครื่องหมายวัตถุที่ต้องการด้วยรีโมตคอนโทรล เซนเซอร์ก็จะคำนวณพิกัดของวัตถุนั้นได้ทันทีและตำแหน่งของวัตถุจะถูกแชร์โดยอัตโนมัติไปที่รีโมตคอนโทรลหรือไปยัง DJI FlightHub และโดรนก็จะบินไปยังจุดที่กำหนดไว้ ส่วน Smart Track คือฟีเจอร์ที่ถูกกออกแบบมาเพื่อติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือยานพาหนะ ด้วยการซูมอัตโนมัติสำหรับการติดตามวัตถุอย่างต่อเนื่อง โดยแชร์ไปยังรีโมตคอนโทรลหรือไปยัง DJI FlightHub เพื่อให้ทีมสำรวจสามารถติดตามได้อย่างเรียลไทม์
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้โดรน M300 RTK โดดเด่นกว่าโดรนตัวอืนๆนั้นก็คือสามารถบันทึกภารกิจสด (Live Mission Recording) ซึ่งสามารถบันทึกการปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างไฟล์ตัวอย่างภารกิจสำหรับการตรวจสอบอัตโนมัติในอนาคต เพื่อช่วยลดเวลาการทำงานสำหรับทีมสำรวจและค่าใช้จ่ายของบริษัท
คุณยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโดรนรุ่นนี้ให้มากขึ้นไปอีกได้ด้วยการติดกล้อง Zenmuse P1 หนึ่งในเพย์โหลดที่รวมเซนเซอร์ฟลูเฟรมเข้ากับเลนส์โฟกัสที่ปรับได้ด้วยกิมบอล (gimbal) ที่มีแกนกันสั่นถึง 3 แกน โดยได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับภารกิจการทำโฟโตแกรม โดยกล้องรุ่นนี้ถือว่าเป็นกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดครอบคลุมทั้งหมด โดยมาพร้อมกับตัวเลือกเลนส์ Multiple Fixed-focus ถึงสามแบบไม่ว่าจะเป็น 24 mm, 35 mm หรือ 50 mm เพื่อให้ทีมสำรวจได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานะการณ์ต่างๆ และยังมาพร้อมกับการถ่ายภาพที่มัสัญญาณรบกวนต่ำและมีความไวแสงสูงทำให้ช่วยการทำงานในแต่ละวัน เนื่องจากการสำรวจนั้นจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อให้ครบคลุมทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
นอกเหนือไปจากนั้นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ทำให้ Zenmuse P1 ตัวนี้แตกต่างและโดดเด่นนั้นก็คือ Real-time Mapping Mission ซึ่งกล้อง Zenmuse P1 ตัวนี้สามารถรวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ได้โดยใช้ DJI Terra แอปพลิเคชั่นจากทาง DJI และฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ทีมที่อยู่ในไซต์งานสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วมากขึ้นเนื่องจากสามารถติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเรียลไทม์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Matrice 300 และ Zenmuse P1 ได้ที่ https://www.poladrone.co.th/ หรือหากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่เบอร์ + (66) 87 579 8736 หรือที่ Line: @poladrone_thailand