ตรุษจีนปีนี้เงินสะพัดแค่ 4.49 หมื่นล้าน ลดลง 21.85% เหตุโควิดรอบใหม่ ส่งผลให้ชะลอการใช้จ่าย ลดการเดินทางท่องเที่ยว
น.ส.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาศูนย์พยาการณ์เศรษฐกิจแลธุรกิจ มหาวิทยาลัหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ว่า ในภาพรวมเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ไม่คึกคัก โดยมีปัจจัยจากการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่และรอบเก่า รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ประชาชนเชื้อสายไทย-จีน ชะลอการใช้จ่ายลดลง ซึ่งปีนี้มีมูลค่าการใช้จ่าย เพียง 44,939 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 21.85% เป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 13 ปี นับตั้่งแต่มีการสำรวจมา
ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลกับสถานการณ์โควิด ทำให้พฤติกรรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนไป โดยจะเห็นว่าเริ่มใช้บริการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ แบบเดลิเวอร์รี่มากขึ้น ลดการเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง และพบว่ามีการนำเงินจากที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านโครงการของรัฐมาดำเนินการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะนำมาซื้อของเซ่นไหว้
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนในปีนี้ คงจะไม่คึกคักมากนัก และถือว่าต่ำสุดในรอบ 13 ปี เกิดจากปัญหาความกังวลต่อปัญหาโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถจะเดินทางท่องเที่ยวได้มากนัก ประกอบกับคนยังระระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย จึงทำให้การใช้จ่ายซื้อสินค้าเซ่นไหว้ในช่วงตรุษจีนกันไม่มากนัก
ทั้งนี้การใช้จ่ายที่ลดลงไป 21.85% หรือเงินหายไป 1.2 หมื่นล้านาท ยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทย เนื่องจากยังมีเม็ดเงินอัดฉีดผ่านโครงการภาครัฐอีกหลายโครงการ เช่น โครงการไทยชนะและโครงการเรารักกัน รวมถึงโครงการคนละครึ่งที่จะมีเม็ดเงินรวมกันรวมกว่า 330,000 ล้านบาทที่จะอัดฉีดเข้าระบบได้ต่อเนื่องไปอีก จึงเชื่อว่าจะดันเศรษฐกิจไทยกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปี 64 นี้ได้ .
"ตรุษจีนปีนี้เรียกว่ากร่อย ไม่คึกคักเป็นการใช้จ่ายลดลงในรอบ13 ปี สาเหตุทั้งจากโควิด เศรษฐกิจไม่ดี รายได้ลดลง ทำให้มีการชะลอการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะมีผลต่อทุกเทศกาล ขณะที่การเลือกซื้อของเซ่นไหว้ ปีนี้คนจะซื้อไข่มากขึ้น และลดสัดส่วนการซื้อประเภทอื่น หมู เป็ด ไก่ ลดลง "นนายธนวรรธน์ กล่าว