ปิดฉาก OTOP CITY 2020 ฝ่าวิกฤตโควิด – 19 เที่ยว “โอทอปวิถีใหม่” โกยรายได้ยอดจำหน่ายทะลุ 700 ล้านบาท เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากพัฒนาชุมชน
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การจัดงาน OTOP City 2020 ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม-27 ธันวาคม2563 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สร้างยอดขายรวมตลอดทั้ง 9 วันจำนวน 701,830,702 บาท โดยสินค้า OTOP ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดใน 5 อันดับแรก อันดับหนึ่งคือ ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย คิดเป็นมูลค่า 216,071,817 บาท อันดับสอง ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก คิดเป็นมูลค่า 52,999,211 บาท อันดับสาม ประเภทอาหาร คิดเป็นมูลค่า 48,643,008 บาท อันดับสี่ ประเภทเครื่องดื่ม คิดเป็นมูลค่า 11,418,138 บาท และอันดับห้า ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร คิดเป็นมูลค่า 11,331,275 บาท ตามลำดับ สร้างยอดสั่งซื้อให้กับผู้ประกอบการได้มากกว่า 82,047,423 บาท และมียอดจำหน่ายรวมมากถึง 701,830,702 บาท
ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน และทอดพระเนตรนิทรรศการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ด้วยพระดำริที่จะรักษาและสานต่อพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และพัฒนาผ้าไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทย พระองค์ทรงมีโอกาสเสด็จฯไปทรงเยี่ยมชมผ้าไทย และงานหัตถกรรมพื้นบ้านตามภูมิภาคต่างๆ ทอดพระเนตรผลงานที่ถ่ายทอดมาแต่บรรพบุรุษ 3 ภูมิภาค จึงเป็นที่มาของนิทรรศการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปหัตถกรรมไทยเพื่อให้รายได้กลับเข้าสู่ชุมชน เป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาค
“ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่มาให้กำลังใจและให้การสนับสนุนสินค้า OTOP ของไทย ซึ่ง กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน มีความตั้งใจจะส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศให้มากยิ่งขึ้น การจัดงาน OTOP City 2020 ในครั้งนี้ยังเป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาล ในการร่วมสนับสนุนกระเช้าของขวัญจากผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อใช้เป็นสื่อกลางมอบความปรารถนาดีให้แก่กันเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2564 และเพื่อให้ประชาชน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ สินค้า OTOP ในชุมชนหมู่บ้านมีรายได้กระจายไปทั่วประเทศ และยังเป็นการยกระดับสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยการสร้างโอกาสให้ชุมชนได้นำสินค้าที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด ทั้งนี้กรมการพัฒนาชุมชน ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า OTOP ในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน” อธิบดี พช. กล่าว