ครม.ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเที่ยวไทย หลังเปิดเฟสแรกไม่เข้าเป้า มาเที่ยวแค่ 825 คน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ แก้กฎกระทรวงมหาดไทย เรื่องการอนุญาติให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติเข้ามาพักในประเทศไทย ผ่านมาตรการวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa (STV) ที่เป็นการพำนักระยะยาว รวมถึงให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือเดินทางผ่านเข้าประเทศไทยมาทางเรือยอร์ช ซึ่งมาตรการได้กำหนดไว้ว่า จะต้องมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ต่ำเท่านั้น ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข
น.ส.รัชดา กล่าวว่า การที่ระบุดังกล่าว ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศน้อยกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ เพราะขณะนี้รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศไทย
ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งว่าตั้งแต่มีการผ่อนตามมาตรการวีซ่า STV มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 825 คน จาก 29 สัญชาติเท่านั้น ส่วนกรณีที่เดินทางมากับเรือยอร์ช มีขั้นตอนเอกสารวีซ่านาน เข้ามาได้เพียง 6 ลำเท่านั้น จากที่คาดว่าจะมีเรือยอร์ชเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก
ดังนั้น วันนี้ ครม. จึงมีมติยกเลิกเงื่อนไขอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสะดวกขึ้น โดยให้มีการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ ได้แก่ฉบับแรกที่กำหนดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยระยะยาว ต้องมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงโควิด-19 ต่ำเท่านั้น เป็นเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักในประเทศไทยได้ โดยไม่มีกำหนดประเทศอีกต่อไป ชาวต่างชาติทุกประเทศขออนุญาตเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวระยะยาวในประเทศไทยได้หมด
นอกจากนี้ ให้มีการแก้ประกาศสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าในไทยด้วยเรือยอร์ช ก็ไม่กำหนดว่าต้องมาจากประเทศมีมีความเสี่ยงจากโควิด -19 ต่ำอีกต่อไป มาจากประเทศไหนก็ได้ ขณะเดียวกันยังขยายเวลาขยายเวลาการลงตราวีซ่า STV ณ ที่ด่านตรวจ ให้ขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน ตั้งแต่ประกาศมีผลบังคับใช้
"ยืนยันว่า แม้ว่าเราจะเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวทุกประเทศเข้ามาในประเทศไทยได้ แต่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เช่น การกักตัว 14 วัน และการแจ้งที่พำนักท่องเที่ยวให้ชัดเจน" น.ส.รัชดา กล่าว