.

ปี 2020 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเอส แอนด์ พี ที่ต้องปรับตัวในหลายๆ ด้าน "สำหรับ เอส แอนด์ พี การบริหารจัดการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคด้านความสะอาดปลอดภัยแล้ว เรื่องโภชนาการ และการดำเนินงานที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม นับเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน”

ก้าวสู่ปีที่ 47 ที่เอส แอนด์ พี ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด "คุณธรรมเพื่อความยั่งยืน" ที่ผ่านมา เอส แอนด์ พี ได้พัฒนาเมนูสุขภาพต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ และมีสุขภาพแข็งแรง อาทิ เมนูลดโซเดียม เมนูออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่เพื่อสุขภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย 'ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Logo)' ล่าสุดยังได้ชูเมนูกุ้งจัมโบ้ เมนูที่เน้นวัตถุดิบพรีเมี่ยมด้วยกุ้งตัวโต อร่อยเต็มคำ พร้อมใช้กลยุทธ์แบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเดินหน้าปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนากระบวนการผลิตและการจัดการของเสียอย่างเป็นระบบ ให้เกิดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

มณีสุดา ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท กล่าวว่า "นอกจากมาตรการความสะอาด และปลอดภัยของลูกค้า เอส แอนด์ พียังต้องดำเนินงานโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางตัวแปรที่หลากหลาย ภายใต้เป้าหมายหลัก 5 ด้าน ได้แก่

1. ด้านคุณภาพอาหารและโภชนาการ เอส แอนด์ พีเลือกใช้วัตถุดิบปลอดภัย และมีคุณภาพ นำมาพัฒนาเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับลูกค้า รวมทั้งมีการประเมินมาตรฐานคุณภาพและบริการสำหรับร้านเอส แอนด์ พี กว่า 500 จุดขายอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ เอส แอนด์ พี ยังยกระดับมาตรฐานโรงงานผลิตอาหารและเบเกอรี่ ซึ่งล่าสุดได้รับการรับรอง ISO 22000: 2018 อีกทั้งยังได้ติดตั้งหลังคาโซลาร์ (Solar Roof) ในการผลิตเบเกอรี่บางส่วน ได้แก่ พัฟ พาย คุกกี้ บัทเทอร์เค้ก และขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งเราผลิตมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่สิ่งแวดล้อม อันเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนทางหนึ่งด้วย

2. ด้านลูกค้าสัมพันธ์ เอส แอนด์ พี รักษามาตรฐานทั้งในด้านรสชาติอาหาร การบริการ และความสะอาดเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุด 

3. ด้านบรรจุภัณฑ์ โดยในปีที่ผ่านมา เอส แอนด์ พี สามารถลดการใช้พลาสติกไปได้ถึง 82 ตัน จากการลดการใช้พลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์ Grab & Go อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน Quick Meal หลอดกระดาษ ถุงพลาสติก ฯลฯ

4. ด้านการจัดการของเสียและเศษอาหาร เอส แอนด์ พี มีการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนในองค์กร เช่น นำขวดพลาสติกที่เก็บจากหน้าร้านและสำนักงานภายใต้โครงการ 'ขวดนี้ไม่ใช้เราขอนะ' มาผลิตเสื้อพนักงาน ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากขวดพลาสติกแทนที่จะปล่อยให้พลาสติกเหล่านั้นกลายเป็นขยะ มีการแยกขยะทั้งที่โรงงานและหน้าร้าน เพื่อการจัดการต่ออย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกำลังวางแผนมอบเบเกอรี่บางส่วนให้กับชุมชนที่มีความต้องการ เพื่อลดปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารในสังคม

5. การพัฒนาบุคลากร ด้วยการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ รวมทั้งส่งเสริมภาวะผู้นำแก่พนักงานในทุกระดับ นอกจากนี้ สำหรับวันแม่ปีนี้ เอส แอนด์ พี ยังช่วยสนับสนุนอาชีพและรายได้คืนแก่สังคม ด้วยการเตรียม 'การ์ดแห่งความสุข' เพื่อเป็นตัวแทนบอกความรู้สึกดีๆ ให้แก่ คุณแม่ ซึ่งเป็นผลงานของน้องๆ เด็กพิเศษออทิสติกภายใต้กลุ่ม ART STORY ธุรกิจเพื่อสังคม สำหรับลูกค้าที่ซื้อเค้กปอนด์และรับประทานอาหารที่ร้าน ในช่วงวันที่ 11-12 สิงหาคม 2563 ณ สาขาที่ร่วมรายการอีกด้วย"

สิ่งเหล่านี้นับเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ทำให้เอส แอนด์ พี อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยเอส แอนด์ พี มีเป้าหมายยกระดับด้านสุขภาพ โภชนาการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป