MONEY

โดย กองบรรณาธิการ M2F

31 มีนาคม 2563 : 17:08 น.

บอร์ดบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเห็นชอบให้พักชำระหนี้ 1 ปีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกหนี้กว่า 2 แสนคนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่อาคารดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้แก่สมาชิกลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่มีรายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้ อันเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เปิดเผยภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้หามาตรการเยียวยาแก่สมาชิกลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในช่วงโควิด-19 ระบาด โดยเห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้แก่สมาชิก ซึ่งมีทั้งสมาชิกที่ลูกหนี้ทั้งประเภทบุคคลธรรมดา และประเภทองค์กรสตรีที่กู้ยืมเงินประเภทเงินทุนหมุนเวียนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไปประกอบอาชีพ

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การช่วยเหลือคือ ต้องเป็นสมาชิกลูกหนี้กองทุนฯ มีหนี้หรือหนี้ค้างชำระที่ถึงกำหนดชำระในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 และมาแสดงความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือโดยยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและติดตามการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอ/สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร ที่สมาชิกได้ยื่นขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมจากกองทุนฯ ภายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563

สำหรับ การให้ความช่วยเหลือกองทุนฯ จะพิจารณาขยายกำหนดระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ยืม (พักชำระหนี้) ให้แก่สมาชิกลูกหนี้ที่มีสิทธิและเข้าหลักเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยให้เลื่อนวันครบกำหนดชำระหนี้งวดที่อยู่ในห้วงวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ไปอีก 12 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มจากดอกเบี้ยเดิมที่ต้องชำระในงวดนั้น

" โดยให้เลื่อนวันครบกำหนดชำระหนี้ของงวดต่อ ๆ ไปอีก งวดละ 12 เดือนจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาโดยให้คิดดอกเบี้ยใหม่ ตามจำนวนวันในงวดนั้น ๆ การพักชำระหนี้ตามประกาศนี้ไม่ตัดสิทธิผู้กู้ยืมเงินในการชำระหนี้คืนกองทุนในระหว่างการพักชำระหนี้ โดยจะพิจารณาการขอพักชำระหนี้ของสมาชิกให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่อง" อธิบดีพช.กล่าว

ทั้งนี้ สมาชิกกองทุนฯ ผู้มีสิทธิ์ต้องมายื่นด้วยตนเองเท่านั้นซึ่งปัจจุบันมีลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์พักชำระหนี้จำนวนประมาณ 49,803 โครงการ หรือจำนวน 249,015 คน มีมูลค่าหนี้จำนวนกว่า 4,000 ล้านบาท (4,034,761,335.95 บาท) โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ