รมว.คลังยอมรับเกินคาดลงทะเบียนตกงานจะทะลุ 20 ล้านคน ยืนยันให้ทุกคนที่ผ่านเกณฑ์
เมื่อวันที่ 30 มี.ค.นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ความคืบมาตรการแจกเงินแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัาโควิด-19 มีคนมาลงทะเบียนจำนวนมากกว่าที่คาด ขนะนี้่เกือบ 20 ล้านคน ซึ่งรัฐก็มีระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ถ้าเข้าก็ได้รับสิทไม่ได้ขีดว่าจำนวนนเท่าไหร่ แต่จะดูว่าเข้าตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ยอดลงทะเบียนเวลา 14.00 น. มีผู้ทะเบียน 19.8 ล้านคน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้ลงทะเบียนทั้งหมดจะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนทุกคน เพราะยังมีหลายคนเข้าใจผิดว่าลงทะเบียนเสร็จแล้วรอรับเงินได้เลย
หลังจากนี้ ผู้ได้รับเอสเอ็มเอสยืนยันว่าลงทะเบียนได้แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล คัดกรองว่ามีคุณสมบัติครบหรือไม่ ดังนั้นผู้ลงไม่ได้หมายความว่าจะได้เงินทันทีแบบอัตโนมัติ แต่ต้องผ่านการคัดกรองเหลือเท่าไหร่จะเป็นอีกเลขอีกจำนวนหนึ่ง แต่ขอให้ความมั่นใจยืนยันว่ารัฐบาลดูแลพวกท่านให้ได้รับเงินเยียวยาครบถ้วน
กระบวนการตรวจสอบคัดกรอง กรณีที่ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน กระบวนการตรวจสอบใช้น้อยที่สุด 7 วันทำการ ดังนั้นกระบวนการคัดกรองจะยาวกว่านั้นได้ เพราะชุดข้อมูลสูงมากเกือบ 20 ล้านชุดข้อมูล และอาจมากเพิ่มอีก กระบวนการตรวจสอบจะนานขึ้นไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่ผ่านการคัดกรองคือผู้สมควรได้รับเงินเยียวยาจริงๆ
นายลวรณ กล่าวว่า เกณฑ์การพิจารณามี 3 เกณฑ์ใหญ่ คือ
1. ต้องเป็นแรงงาน ลูกจ้าง หรือประกอบอาชีพอิสระ เช่น วินมอเตอร์ไซค์ ขับรถแท็กซี่ ร้านก๋วยเตี๋ยว ค้าขาย เป็นต้น
2. ต้องไม่อยู่ในระบบประกันสังคม สถานประกอบการขนาดเล็ก มีลูกจ้าง 2-3 คน เช่นร้านนวดแผนโบราณ ถ้าร้านถูกปิด แรงงานที่ทำงานในร้านนี้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา
3. ท่านได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างไร จะต้องเป็นผลกระทบต่อรายได้ที่เป็นตัวเงิน เพราะมาตรการเป็นการชดเชยรายได้ที่หายไปจากผลกระทบโควิด-19 ดังนั้นต้องชี้ให้เห็นว่าท่านถูกให้ออกจากงาน หรือตกงาน รายได้หายไปจากงาน หรือว่าถูกลดวันทำงาน ถูกลดเงินเดือนลง ก็เข้าข่าย หรือสถานประกอบการถูกปิด เป็นต้น
"บางกลุ่มอาชีพที่ชัดเจนว่าได้รับผลกระทบ เช่น แท็กซี่ คนอยู่บ้านมากขึ้นทำให้ลดการเดินทางลง ส่วนคนที่ยังไม่ชัดเจนจะมีการติดต่อสื่อสาร เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล และให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนผลกระทบจนทำให้ต้องทำงานที่บ้าน แต่เงินเดือนยังได้ครบ ไม่ถือว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามเกณฑ์" นายลวรณ กล่าว