MONEY

โดย กองบรรณาธิการ M2F

27 พฤศจิกายน 2562 : 13:22 น.

เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง ดึงประสบการณ์และเพนพอยต์ผู้สูงอายุ ปั้นแบรนด์ “เซนนิตี้” เอาใจคนวัยเก๋า เตรียมเจาะตลาดออรัลแคร์

บริษัท เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง จำกัด ปั้นแบรนด์ใหม่ “เซนนิตี้” (Senity) เอาใจคนวัยเก๋า เตรียมเจาะตลาดออรัลแคร์ (Oral Care) หรือผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับผู้สูงอายุ ชู 4 โปรดักส์ ฮีโร่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก พร้อมนวัตกรรมซิลิโคนช่วยจับสำหรับบริหารกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปูพรมช่องทางจำหน่ายแบบอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) เพิ่มบริการส่งสินค้าถึงบ้านตามรอบอายุการใช้งาน (Subscription plan) และส่งเสริมแนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการรับบรรจุภัณฑ์เก่านำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี

นายวรวัฒน์ เล้าอารยะรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เล้าอารีย์ เทรดดิ้ง มีประสบการณ์ด้านการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแปรงสีฟันภายใต้แบรนด์ “BrushMe” ทั้งยังเป็นผู้ผลิตแปรงสีฟันในรูปแบบโออีเอ็ม (OEM) ให้แก่กลุ่มเอสเอ็มอีและบริษัทชั้นนำของประเทศ มากว่า 10 ปี จึงทำให้มองเห็นทิศทางของตลาดว่า ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ มีการปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แต่ยังคงมุ่งไปที่กลุ่มเด็ก วัยทำงาน และครอบครัว ส่วนกลุ่มผู้สูงวัยยังไม่ค่อยมีการทำตลาดมากนัก ทั้งที่เป็นกลุ่มตลาดใหญ่และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2564 จำนวนประชากรผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 20% ของจำนวนประชากรหรือประมาณ 14 ล้านคน ส่งผลให้สถานการณ์ตลาดผู้สูงอายุ มีแนวโน้มการเติบโตในกลุ่มธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการผู้สูงอายุ ซึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงขึ้น ประกอบกับตลาดผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อปานกลางถึงสูง ยังต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลเป็นหลัก

ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care) ในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียาสีฟันเป็นเซ็กเมนต์ใหญ่ที่สุด ซึ่งในกลุ่มของยาสีฟันพรีเมี่ยมยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ยินดีจ่ายสำหรับสินค้าที่ดี มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขภาพฟันและช่องปากมากขึ้น มีโอกาสเพิ่มความถี่ในการแปรงฟันต่อวันและใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลช่องปากหลากหลายขึ้น ขณะเดียวกัน เทรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากทั้งในและต่างประเทศ มีการให้ความสำคัญกับช่วงวัยต่างๆ และสร้างดีมานด์ในกลุ่ม Personal use หรือเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้นอย่างเช่น ในวัยเด็กแรกเกิด ไปจนถึงเด็กโต และยังให้ความสำคัญกับชนิดของขนแปรง รวมถึงขนาดของหัวแปรง แต่ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่โฟกัสไปยังกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะยังมีไม่มากนัก ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว อีกทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่มักถูกมองข้ามมาตลอด สินค้าหรือบริการหลายอย่าง ถูกคิดมาแบบ Passive thinking คือเพื่อแค่รองรับปัญหาสุขภาพ แต่ทั้งนี้เล้าอารีย์ต้องการสร้างสินค้าและบริการแบบ Active thinking ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับกลุ่มผู้สูงอายุยุคใหม่ ได้ใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ มีสีสัน ดูดี ไม่ต่างจากประชากรกลุ่มอื่นๆ

จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับผู้สูงวัยขึ้น ภายใต้แบรนด์ “เซนนิตี้” (Senity) โดยการนำประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจแปรงสีฟันและการนำเอาปัญหา (Pain Point) ด้านการดูแลสุขภาพช่องปากที่พบในกลุ่มผู้สูงวัย อาทิ ปัญหาการจับด้ามแปรงสีฟันไม่สอดรับกับกล้ามเนื้อมือ ปัญหาน้ำลายแห้งและปากแห้ง เป็นต้น มาคิดค้นและพัฒนาควบคู่กับนวัตกรรมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งถือเป็นเทรนด์การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ทำกันทั่วโลก โดยผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ทุกตัวของแบรนด์เซนนิตี้สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้เองตามธรรมชาติ เพราะผลิตจากไบโอพลาสติก ประกอบด้วย ชานอ้อย ข้าวโพด และมันสำปะหลัง

โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ในระดับ B+ หรือคิดเป็นกว่า 10% ของประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยกว่า 14 ล้านคน รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ และกลุ่มผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ เซนนิตี้ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

  • “แปรงสีฟัน” (Toothbrush) ที่ถูกออกแบบมาให้คอแปรงทำมุม 10 องศา ด้ามจับแบน เพื่อให้จับถนัดมือและสอดรับกับช่องปาก ขนแปรงนุ่มเหมาะกับเหงือกและฟันของผู้สูงวัย
  • “ยาสีฟัน” (Toothpaste)ใช้ส่วนผสมที่มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำตาล ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันการอักเสบ และยังสามารถช่วยแก้ปัญหาปากแห้งในผู้สูงวัย
  • “น้ำยาบ้วนปาก” (Mouthwash) แบบ 2-Phase มีส่วนผสมของน้ำมันและของเหลว เพื่อช่วยให้การทำความสะอาดไม่ระคายเคืองช่องปาก ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและป้องกันปัญหาน้ำลายแห้งใช้สารสกัดธรรมชาติจากหญ้าหวานเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
  • “ซิลิโคนช่วยจับ” (GRIPP) อุปกรณ์ช่วยจับที่ถูกออกแบบตามสรีระศาสตร์ สามารถนำมาใช้คู่กับแปรงสีฟันหรือช้อนส้อมทำให้การจับยึดสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเหมาะกับกลุ่มผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์และกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพราะเปรียบเสมือนตัวช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อมือ

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายจะปูพรมจำหน่ายบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) เป็นหลัก เนื่องจากมองว่าเป็นช่องทางที่ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้สูงวัย เพราะสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องออกเดินทางไปหาซื้อสินค้าด้วยตนเอง สามารถชมสินค้าและเลือกซื้อผ่านทาง website :: www.Senityofficial.com, Official Line :: @Senity, Facebook Page :: Senity

โดยลูกค้าสามารถรับสินค้าภายใน 1 วัน พร้อมบริการจัดส่งฟรีสำหรับการสั่งซื้อเป็นเซ็ตผ่านบริการ DHL และจะมีการทำตลาดแบบ “ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง” (Online Marketing) ควบคู่กันไป เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) อาทิ LINE Facebook และ YouTube ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มากขึ้น โดยในส่วนของการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์เซนนิตี้นั้น จะใช้กลยุทธ์การสื่อสารในรูปแบบ Direct message marketing คือการส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งสินค้าตัวอย่างไปให้ผู้บริโภคโดยตรงเพื่อให้เกิดการทดลองใช้และเพื่อสร้างการรับรู้รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ รวมถึงการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายรอง คือบุตรหลานของผู้สูงอายุ ซึ่งมีโอกาสจะเป็นผู้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้ผู้สูงอายุได้

นอกจากนี้ ยังเพิ่มบริการในแบบ Subscription Plan เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในหลายประเทศคือ เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในหลายประเทศ คือ ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิกแบบรายปีและเลือกระยะเวลาความต้องการใช้สินค้า เช่น ทุก 1, 2 หรือ 3 เดือน บริษัทฯ จะทำการจัดส่งสินค้าให้ตามระยะเวลาที่กำหนด ภายใน 1 วัน บริการจัดส่งฟรี ผ่านบริการ DHL ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถส่งสินค้าที่ใช้แล้วกลับมาเพื่อให้ทางบริษัทนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือทำการย่อยสลายทางชีวภาพที่ถูกต้อง บริการดังกล่าวได้ทำการนำร่องสำหรับกลุ่มลูกค้าภายในประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าในอนาคตจะทำการขยายบริการไปสู่ตลาดประเทศต่างๆ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยสินค้าและบริการดังกล่าวเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“บริษัทฯ ตั้งเป้าขึ้นเป็น Global Brand ภายในระยะเวลา 5 ปี นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อนำมาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมถึงการเพิ่มรูปแบบบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัย” นายวรวัฒน์ กล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ