คนจน 14.6 ล้านคนเฮแล้วเฮอีก คลังควักเงินให้ 1,000 บาทไปท่องเที่ยว เปิดทางซื้อสุราเบียร์บุหรี่ได้เต็มที่
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรณีที่มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน นำเงินที่ได้แจกเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รวมเป็นเงิน 1,000 บาท ไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยืนยันว่าเป็นแค่คนส่วนน้อย ซึ่งตอนนี้ได้สั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลและสื่อสารให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าใจวัตถุประสงค์ของมาตรการ และกระตุ้นให้ใช้เงินอย่างถูกต้อง
เมื่อถามว่า กรณีมาตรการชิม ช้อป ใช้ ที่แจกเงิน 1,000 บาท และเปิดให้สามารถนำไปซื้อ บุหรี่ เบียร์ สุรา ได้ด้วยนั้น นายอุตตม ไม่ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมเดินหน้านิ่งออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
นายอุตตม กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีเป้าหมายชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เกิดการจับจ่ายใช้สอยและเกิดสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และชุมชน หากไม่มีมาตรการ ความมั่นใจก็จะหายไป การจับจ่ายใช้สอยก็จะหายไป คนที่ถูกกระทบก็คือผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจในภาพรวม
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน14.6 ล้านราย สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงิน 1,000 บาท ตามมาตรการ “ชิมช้อปใช้” โดยเปิดกว้างให้ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินได้ รวมทั้งไม่ห้ามให้นำเงิน 1,000 บาท ที่รัฐบาลจะจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (G-Wallet) นำไปซื้อสินค้าประเภทสุรา เบียร์ บุหรี่ แค่ห้ามไม่ให้นำไปจ่ายเติมน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น
“การใช้เงินแจกท่องเที่ยว 1,000บาท เป็นสิทธิ์ของผู้ที่ได้เงิน จะไปใช้ซื้อสุรา เบียร์ บุหรี่ คลังไปห้ามไม่ได้ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องไม่ควรก็ตาม” น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ มาตรการแจกเงินให้ผู้ถือบัตรคนจนเพิ่ม 2 เดือน 1,000 บาท ใช้เงินงบประมาณ 14,600 ล้านบาท ให้คนสูงอายุอีก 1,000 บาท เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท และคนจนที่มีลูกอายุไม่เกิน 6 ขวบ จำนวน 600 บาท เป็นวงเงินอีก 500 ล้านบาท
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ผู้ถือบัตรคนจนสามารถจองสิทธิ์รับเงิน 1,000 บาท จากมาตรการท่องเที่ยวที่จะออกมาได้ ซึ่งดำเนินการปกติและต้องนำไปใช้จ่ายในจังหวัดที่ลงทะเบียนท่องเที่ยวตามกำหนดเวลา ส่วนเรื่องการนำเงินที่ได้ไปทานอาหารและสั่งสุรา เบียร์ มาทานด้วย คงห้ามไม่ได้ ทั้งนี้วงเงินที่ใช้มาตรการที่ใช้ทั้งหมด 20,000 ล้านบาท จะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 0.1-0.2%
อย่างไรก็ตาม กรมบัญชีกลางได้เริ่มเปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีร้านค้าทั้งที่อยู่ในส่วนร้านธงฟ้าประชารัฐซึ่งเป็นฐานข้อมูลเดิม และร้านค้ารายใหม่ที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการทั้งสิ้น 1.3 แสนร้านค้า ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอรองรับการใช้งานจากประชาชน 10 ล้านราย
สำหรับ ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิมาตรการชิมช้อปใช้ รับเงิน เป๋าตัง (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ได้ ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 15 พ.ย. 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และมีสมาร์ทโฟน เครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีอีเมลล์ โดยต้องกรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทางอีเมลล์ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียน ได้อีกครั้งในรอบถัดไป หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง และภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่งเอสเอ็มเอสไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้ หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับเอสเอ็มเอส)
หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ และดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง เมื่อได้รับเอสเอ็มเอส ยืนยันการได้รับสิทธิ ตามขั้นตอน โดยจะมีระบบให้ยืนยันตัวตน หลังจากนั้นจะแจ้งวงเงิน 1,000 บาทในเป๋าตัง ช่องที่ 1 และเริ่มใช้งาน และจะมีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงินที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500บาท จากวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 3,000 บาทจากวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 3,000 บาท