โพลหอการค้าไทยระบุ สงกรานต์เงินสะพัด 1.35 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.78% ชี้คนไทยอยากควงคู่
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า คึกคัก คาดว่าเงินสะพัด 135,837.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.78% จากปีก่อนอยู่ที่ 132,162.87 ล้านบาท โดยการวางแผนท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ 87.2% การใช้จ่ายเฉลี่ย 5,232.25บาท ต่างประเทศ12.8% นิยมไปเที่ยวที่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี ฮ่องกง
ทั้งนี้ กิจกรรมอันดับแรกคือรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ รองลงมาเป็นการสังสรรค์จัดเลี้ยง ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มจากปีก่อน และพักผ่อนอยู่บ้านเพิ่ม สำหรับนักการเมืองที่อยากรดน้ำดำหัวมากสุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมาเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แซงนายทักษิณ ชินวัตร ดาราชายที่อยากเล่นน้ำสงกรานต์คือ ณเดช คูมิกูยะ ดาราหญิงเป็นญาญ่า- อุรัสยา เสปอร์บันด์
ขณะที่ ปัญหาฝุ่นละอองในภาคเหนือกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย พะเยาทำให้รายได้ท่องเที่ยวหายไป5,000-7,000 ล้านบาท " พรที่ต้องการคือขอให้เศรษฐกิจก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ประเทศไทยมีความประชาธิปไตย ปราศจากเผด็จการรัฐประหาร อยากเห็นคนไทยรักสามัคคี และบ้านเมืองปราศจากคอร์รัปชั่น
ด้านความหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่คือลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ แก้ปัญหาค่าครองชีพสินค้าราคาแพง ลดความขัดแย้ง แก้ปัญหายาเสพติด โดยมองว่าถ้ารัฐบาลจัดตั้งแล้วเสร็จและก.ย.มีนายกรัฐมนตรีจะทำให้จีดีพีโต3.5% แต่ถ้าจีดีพีต่ำกว่า3.5% มาจากปัจจัยการเมืองในประเทศวุ่นวาย สงครามการค้าไม่ได้ข้อยุติ"