พิษฝุ่นในกทม.และปริมณฑลส่งผลให้ คนเดินช็อปปิ้งลดลง ห้างสรรพสินค้าโอดยอดขายตก
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบของฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ในกทม. และปริมณฑล ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคชะลอการใช้ไลฟ์สไตล์นอกบ้าน รวมทั้งการออกมาช็อปปิ้ง รับประทานอาหาร โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมากลุ่มคนเมืองหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น 20-30% เทียบจากช่วงเดียวกัน ขณะที่ช่องทางออฟไลน์หรือธุรกิจค้าปลีก ได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการ ฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม กล่าวว่า ยอมรับว่า ผลกระทบจากฝุ่นทำให้จำนวนคนที่เดินในห้างค้าปลีกลดลง แต่ในส่วนของบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแพนดอร่า มารีเมกโกะ แคท คิดสตัน ทิลด้า และหาญ กล่าวว่า จากปัญหาฝุ่นส่งผลให้คนเดินศูนย์การค้าลดลง คนไปซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น
ด้าน นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ตลาดดอทคอม (Tarad.com) อดีตนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.ที่เริ่มเกิดฝุ่น PM2.5 ซึ่งยอดขายทางออนไลน์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพอากาศ อาทิ หน้ากากอนามัย เครื่องกรองอากาศ และแผ่นฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศ
ทั้งนี้ ผลสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า หากสถานการณ์ฝุ่นยาวอีก 1-2 เดือน ผู้บริโภค 28.6% จะปรับตัวโดยการหันไปใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือบริการส่งถึงบ้านมากขึ้น