รองนายกฯสมคิด เร่งสร้างความเชื่อมั่น หลังนักลงทุนญี่ปุ่น 10% มองอนาคตไทยไม่แน่นอน เนื่องจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน และการเลือกตั้งในไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2562 นายฮิโรกิ มิทสึมะตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ กรุงเทพฯ หรือ เจโทร ได้เข้ามาหารือพร้อมรายงานให้ทราบถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งผลออกมาพบว่า ความเชื่อมั่นในปัจจุบันยังอยู่ในระดับดี แต่เมื่อให้ประเมินถึงสถาการณ์ในระยะต่อไป มีนักธุรกิจ 40% มองว่า อนาคตจะไม่เปลี่ยนปลงจากปัจจุบัน ขณะที่ 10% เริ่มมองเห็นว่าอนาคตมีความไม่แน่นอน

ทั้งนี้ ประเด็นที่นักลงทุน 10% เห็นว่าไม่แน่นอนนั้น หลักๆ มาจากสถานการณ์สงครามการค้า (เทรดวอร์) ระหว่างสหรัฐและจีน ที่จะสร้างความกังวลให้ทั่วโลกซึ่งจะกระทบการส่งออก และอีกประเด็นคือมาจากการที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ขณะที่นักธุรกิจต้องการความต่อเนื่องทางนโยบาย

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ก็มีปัจจัยบวกอยู่ นั่นคือการย้ายฐานการผลิตในประเทศจีนมายังประเทศไทย ประเด็นอยู่ที่ไทยจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้แค่ไหน ไทยต้องทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าการลงทุนในประเทศไทยมีความแน่นอน เช่น กรณีที่จะนำคณะไปเยือนนครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 30 ม.ค.-2 ก.พ. ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่า นโยบายของไทยจะมีความต่อเนื่องจะปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ไม่ได้

"ที่เป็นจุดแข็งของไทยตอนนี้ คือ เรื่องท่องเที่ยวที่สร้างรายได้เกือบ 20% ของจีดีพี ส่วนการส่งออกขึ้นกับสถานการณ์โลก แต่ในประเทศมีโปรเจกต์ที่ต้องลงทุนต่อเนื่อง ก็ต้องขับเคลื่อนช่วยได้ไม่มีปัญหา นอกจากทำให้ต่างชาติมั่นใจแล้ว นักลงทุนไทยก็ต้องมั่นใจด้วย"รองนายกฯกล่าว