MONEY

โดย กองบรรณาธิการ M2F

10 มกราคม 2562 : 21:48 น.

รองนายกฯฉัตชัยปลื้มกลุ่มยุโรปมั่นใจหลังปลดใบเหลือง ภาพลักษณ์ไทยดีขึ้น คาดในระยะยาวส่งออกไปยุโรปเพิ่มแน่

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเป็นประธานการประชุมผู้นำเข้าสินค้าประมงไทยในทวีปยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อชี้แจงผลการพิจารณาของสหภาพยุโรปในการปลดใบเหลืองของไทยโดยมีผู้นำเข้าร่วมงานจำนวนมากว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีปัญหาความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาการทำการประมง ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และ ไร้การควบคุม และปัญหาการค้ามนุษย์ (ไอยูยู) แต่ต้องถือว่า ผู้นำเข้าในกลุ่มประเทศยุโรปยังคงให้ความเชื่อมั่นสินค้าประมงของไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Seafood Task Force ที่ช่วยสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนข้อแนะนำในการดำเนินการต่างๆ ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการแก้ไขปัญหาในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่อาจใช้เวลานับ 10 ปี

นายบ็อบ มิลเลอร์ จากซีพีฟู้ด สหราชอาณาจักร และผู้ก่อตั้งสมาคมซีฟู้ด เทคฟรอส Seafood Task Force กล่าวว่า มั่นใจหลังจากอียู ปลดใบเหลืองภาคการประมงไทย ปลอดการทำประมงผิดกฎหมาย คาดว่าจะทำให้การนำเข้าสินค้าประมงจากไทยเพิ่มมากขึ้น แต่ผลการนำเข้าจากใบเขียวครั้งนี้จะมากหรือน้อยยังตอบไม่ได้ จนกว่าจะเข้าสู่ครึ่งแรกของปี 2562 เพราะขณะนี้เป็นรายการสั่งนำเข้าก่อนหน้า แต่ทูน่าไทยได้รับความนิยม เพราะมีระบบควบคุมตลอด ห่วงโซ่การผลิตดีที่สุดในโลก

สำหรับไทยขณะนี้มีแค่ปัจจัยบวก แต่ทางผู้นำเข้ามีการนำเข้าจากต่างประเทศมาอียูประมาณ 60% และเกือบครึ่งมาจากไทยส่วนมากเป็นทูน่ากระป๋องและปลาหมึก แต่หลังจากนี้ ต้องหาตลาดสินค้าอื่นๆ ด้วยเพราะความต้องการทูน่าเริ่มคงที่

อย่างไรก็ตาม กลุ่มซีฟู้ด เทคฟรอส จะทำงานกับไทยต่อเนื่อง เพื่อให้สินค้าประมงปลดไอยูยูและคาดว่าจากนี้ไทยจะเป็นผู้นำด้านประมงปลดไอยูยูระดับอาเซียน โดยสัดส่วนนำเข้าสินค้าประมงไทย อียูลดลงจากปี 2557 ที่มีการนำเข้ามูลค่า 642 ล้านยูโร โดยปี 2558 เข้าจากไทย 476 ล้านยูโร และปี 2560 นำเข้า 400 ล้านยูโร

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ฝากให้ทุกรัฐบาลพัฒนา และแก้ไขไอยูยู​ให้ดีขึ้น เพื่อให้การประมงไทยยั่งยืน อย่าแก้กฎหมายหรือระเบียบ เพื่อหาเสียงหรือเอาใจมวลชนบางส่วน เพราะจะส่งผลเสียหายหรือทำให้ไทยอาจโดนอียู ให้ใบเหลืองอีก โดยขอให้ใช้บทเรียนใน 3 ปีที่ผ่านมาว่า ไทยต้องมีการทำงานกันอย่างหนัก และการแก้ไขแต่ละเรื่องส่งผลกระทบในหลายภาคส่วน จนนำมาสู่วันที่อียูประกาศปลดใบเหลืองและยกให้ไทยเป็นประเทศที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่อียู ในการแก้ไขปัญหาไอยูยูในภูมิภาคอาเซียนและในนานาประเทศ

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ