MONEY

โดย กองบรรณาธิการ M2F

08 มกราคม 2562 : 20:41 น.

อียูประกาศปลดใบเหลืองให้ใบเขียวไทย ชมแก้ไขปัญหาประมงตามหลักสากลแล้ว เอกชนขานรับภาพลักษณ์สินค้าไทยดีขึ้น

นายเคอเมนู เวลลา กรรมาธิการยุโรปด้านสิ่งแวดล้อม กิจการทางทะเล และประมง สหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศว่า อียูได้มีมติให้ปลดใบเหลืองและให้ใบเขียวแก่ประเทศไทย ภายหลังใช้เวลากว่า 4 ปี แก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย จนเป็นไปตามหลักสากลแล้ว จากนี้ไทยและอียูจะร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ในโลกและภูมิภาคเอเชียด้วย

"อียูกับไทยได้ลงนามในอนุสัญญา C188 ซึ่งจากนี้อียูจะดำเนินการให้นานาประเทศ แสดงท่าทีเหมือนกับไทยที่จะทำงานใกล้ชิดกันเพื่อแก้ไขในประเทศอื่นๆ ที่ยังทำประมงผิดกฎหมาย เช่น กัมพูชา ไต้หวัน ศรีลังกา ซึ่งอียูเห็นว่าการเตือนโดยการให้ใบเหลืองหรือใบแดงกับประเทศที่ทำประมงผิดกฎหมาย งดการนำเข้าสินค้าเข้ากลุ่มอียู เป็นเครื่องมือที่ดีและได้ผล ดังนั้นขอแสดงความยินดีกับไทย" นายเวลลา กล่าว

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากนี้รัฐบาลไทยจะคงมุ่งพัฒนาการประมงไทยเป็นประเทศปลอดประมงไอยูยู หรือไอยูยูฟรี เพื่อการทำประมงที่ยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคอาเซียนในการแก้ไขปัญหาการทำประมงไอยูยูร่วมกัน ประกอบด้วยการจัดตั้งคณะทำงานไทย-สหภาพยุโรป เพื่อเป็นกลไกร่วมมือส่งเสริมการประมงอย่างยั่งยืน และจัดตั้งคณะทำงานร่วมอาเซียน เพื่อป้องกันและปราบปรามการทำประมงไอยูยู อีกทั้งพร้อมจะร่วมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศอื่นๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกัน

นอกจากนี้ จัดตั้งคณะทำงานร่วมอาเซียนเพื่อป้องกันและปราบปรามการทำประมงไอยูยู หรือ ASEAN IUU Task Force อีกทั้งพร้อมจะร่วมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศอื่นๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกัน

"โอกาสที่ไทยเป็นประธานอาเซียน จึงมีแนวคิดหลักที่จะส่งเสริมหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืนด้วย โดยไทยได้เสนอที่จะผลักดันการจัดทำนโยบายประมงอาเซียน (ASEAN General Fisheries Policy) ให้มีผลเป็นรูปธรรม รวมถึงการจัดตั้งคณะทำงานร่วมอาเซียนเพื่อป้องกันและปราบปรามการทำประมงไอยูยู" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีที่ไทยได้รับใบเขียว หลังจากนี้ไทยจะได้รับผลตอบรับที่ดีในด้านการส่งออก และยังจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าไทยในตลาดโลกให้ก้าวสู่ระดับพรีเมียมมากขึ้น ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลที่ได้ทำงานอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับ มูลค่าการส่งออกสินค้าประมงของไทยช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2561 มีมูลค่ารวม 5.8 หมื่นล้านบาท ติดลบ 11.97% เทียบกับปี 2560

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ