ธนาคารไทยพาณิชย์ยอมรับจำเป็นต้องปิดสาขาเพิ่มปีหน้าอีกกว่า 100 แห่ง เนื่องจากพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปทำธุรกรรมผ่านมือถือมากว่าเข้าแบงก์

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคลและผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกรรมช่องทางสาขาของไทยพาณิชย์ลดลงกว่า 20% จากปกติมีธุรกรรม 13 ล้านรายการ/เดือน เหลือประมาณ 10 ล้านรายการ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนสาขาที่ ลดลง แต่หากไม่นับสาขาที่หายไป ธุรกรรมในภาพรวมยังลดลงถึง 16-17% ซึ่ง เป็นตัวเลขที่สูงมาก

ทั้งนี้ ในปี 2562 ถ้ายังเห็นจำนวนธุรกรรมลดลงประมาณ 10-15% จะเห็นการลดสาขา 100-125 แห่ง โดยปี 2561 ปิดสาขาไปแล้ว 140 แห่ง เนื่องจากพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปทำธุรกรรมบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้นจากการยกเลิก ค่าธรรมเนียมช่องทางดิจิทัล

"ธนาคารไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาลดสาขา ทุกอย่างเกิดจากพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป ส่วนเป้าหมายจะเหลือ 400 สาขาในปี 2564 หรือไม่ ยังไม่รู้อนาคต โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงโจทย์แรกที่ตั้งไว้เพื่อให้รู้ว่าเราจะเดินไปทิศทางไหน" นายสารัชต์ กล่าว

นายสารัชต์ กล่าวว่า จากการปิดสาขาไป 140 แห่ง สามารถยกระดับพนักงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงินได้ 2,000 คน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมีอนาคตที่ดีกว่า อีกทั้งแม้ปีนี้เป็นปีที่ลดสาขามากที่สุด แต่เป็นปีที่สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากที่สุด โดยลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น 14 ล้านคน เป็น 16 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลยุทธ์มาถูกทางในการปรับลดสาขาให้เหมาะสม พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีและการใช้ดาต้าเข้ามาเสริม ช่วยให้บริการได้ครอบคลุมทั้งผู้สูงอายุที่ต้องการไปสาขา และคนรุ่นใหม่บนดิจิทัล ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มและธนาคารลดต้นทุนได้ เป็นการวิน-วินทุกฝ่าย

สำหรับ ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปี 2561 จำนวนสาขาธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 6,734 แห่ง ลดลง 50 แห่ง จากปี 2560 โดยธนาคารที่สาขาลดลงมากที่สุด ได้แก่ ไทยพาณิชย์ ลดลง 54 แห่ง เหลือ 1,107 สาขา รองลงมา กสิกรไทย ลดลง 42 แห่ง เหลือ 987 แห่ง ทหารไทยลดลง 16 แห่ง เหลือ 416 แห่ง และธนชาต ลดลง 9 แห่ง เหลือ 515 แห่ง