คลังมั่นใจเศรษฐกิจยังขยายตัวดี ภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือน
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจเดือน ต.ค. 2561 ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือน ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวสูงสุดในรอบ 70 เดือน และปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศขยายตัวสูงสุด 65 เดือน
ขณะที่การส่งออกกลับมาขยายตัวโดยการส่งออกไปยังสหรัฐและจีน กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า โดยผลสงครามการค้าสหรัฐกับจีน มีผลกระทบกับไทยทั้งด้านบวกและลบ แต่โดยรวมยังส่งผลด้านบวกมากกว่า โดยคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะขยายตัวได้ 8% ตามที่กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้
“คลังได้ติดตามการส่งออกอย่างใกล้ชิด โดยประเมินว่า 3 เดือนสุดท้ายของปี การส่งออกจะต้องการขยายตัวได้ 7.8% เพื่อทำให้การส่งออกทั้งปีขยายตัว 8% โดยการส่งออกเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา การส่งออกขยายตัว 8.7% สูงกว่าเฉลี่ย 3 เดือนสุดท้ายที่ตั้งไว้ และเชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์จะมีมาตรการส่งเสริมการออกให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายไว้ในช่วงที่เหลือของปีอีกจำนวนมาก” นายพรชัย กล่าว
นายพรชัย กล่าวอีกว่า คลังยังยืนประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ทั้งปีไว้ที่ 4.5% แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะปรับลดประมาณการเหลือ 4.2% จากเดิม 4.4% โดยดูตัวแปรทางเศรษฐกิจให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่เดือน ก.ย. ขยายตัวติดลบ แต่ในเดือน ต.ค. ก็กลับมาขยายตัวได้เป็นบวกอย่างรวดเร็วและอัตราสูง ซึ่งจะต้องนำเอาปัจจัยเหล่านี้มีประเมินว่าเศรษฐกิจช่วงสุดท้ายของปีจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายเดิมหรือไม่
สำหรับ การท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน ต.ค. ยังคงหดตัวเล็กน้อย เป็นไปตามกระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ประมาณการเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัวได้ 4.5% เนื่องจากเห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวชะลอมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2561 แต่คาดว่าทั้งปียังมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 38 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่มีปัญหาได้เรียบร้อยแล้ว