ยำยำ ยอมรับยอดขายลด หลังสินค้าไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ถูกอาหารพร้อมทาน ขนมขบเคี้ยวแย่งตลาด ลั่นปรับสูตรต้มยำกุ้งชิงแชร์เพิ่ม

นายเทซึโอะ ซูซูกิ ประธานกรรมการ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหารผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ยำยำ” เปิดเผยว่า ภาพรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัทในปีนี้ยอมรับว่า มีการปรับตัวลดลง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้ออาหารรับประทานมากขึ้น ซึ่งกลุ่มสินค้าที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไป คือ อาหารพร้อมทาน และขนมขบเคี้ยว

นอกจากนี้ การที่บริษัทไม่มีสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของยำยำ มีการปรับตัวลดลงจาก 24% ในปี 2560 ที่ผ่านมา เหลือเพียง 23% ในปีนี้

ทั้งนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต้องหันมาศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้นว่า ชอบสินค้ารสชาติใด ซึ่งหลังจากทำการวิจัยมากว่า 1 ปี พบว่า ผู้บริโภคชอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีรสชาติจัดจ้าน ดังนั้น บริษัทจึงได้เลือกรสต้มยำกุ้งมาปรับสูตรใหม่ ด้วยการใช้เนื้อกุ้งจริง ๆ มาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำผงปรุงรส เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยรสชาติใหม่ที่บริษัทพัฒนาเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ คือ รสต้มยำกุ้ง สูตรใหม่

“แม้ว่ายำยำต้มยำกุ้ง สูตรใหม่ จะมีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทก็ยังไม่มีแผนจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากนำสินค้าดังกล่าวเข้าไปทดลองทำตลาดเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปกติสูงถึง 20-30% ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าสินค้ารสชาติใหม่นี้น่าจะช่วยทำให้ภาพรวมยอดขายของบริษัทดีขึ้น” นายเทซึโอะ กล่าว

ขณะที่กลยุทธ์ซึ่งจะทำให้สินค้ารสชาติใหม่เป็นที่รู้จักและสื่อให้ผู้บริโภคเห็นว่า ยำยำ จัมโบ้ รสต้มยำกุ้ง สูตรใหม่ มีความแตกต่างจากคู่แข่ง บริษัทจึงได้มีการดึง ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก มารับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าดังกล่าว โดยสิ้นปี 2562 คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดปรับเพิ่มเป็น 27% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 23% ขณะที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทในสิ้นปี 2561 นี้คาดว่าจะเติบโตที่ 2%

สำหรับ แผนการดำเนินงานในปี 2562 ที่จะถึงนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัว ยำยำ จัมโบ้ รสชาติใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมควบคู่ไปกับการปรับปรุงสินค้ารสชาติเก่าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนการทำตลาด

ด้านภาพรวมของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในสิ้นปี 2561 นี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4% จากปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นในรูปแบบซอง 85.6% แบบถ้วย 13% และแบบชามประมาณ 0.7%