เผยเอฟทีเอ ดันการค้าไทยกับญี่ปุ่นเติบโต 12.1% ชี้โอกาสเจาะตลาดส่งออกสินค้าเพิ่ม
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 2561 ยังคงโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 4.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นมูลค่าการส่งออกจากไทยไปญี่ปุ่น 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากญี่ปุ่น 2.60 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ผู้นำเข้า-ส่งออกสามารถเลือกใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากร จากความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ (FTA) 2 ฉบับ ที่ไทยลงนามกับญี่ปุ่น คือ 1.ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือเจเทปา (JTEPA) ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2550 ไทยได้ลดภาษีศุลกากรให้ญี่ปุ่นเหลือ 0% ในสินค้า เช่น ผลไม้เมืองหนาว เหล็ก และผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ขณะที่ญี่ปุ่นได้ลดภาษีศุลกากรให้ไทยเหลือ 0% ในสินค้า เช่น กุ้งสด กุ้งแปรรูป ผลไม้เมืองร้อน ผักและผลไม้แปรรูป ปลาปรุงแต่ง สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง และอัญมณีเครื่องประดับ
สำหรับ การติดตามข้อมูลการใช้สิทธิประโยชน์เอฟทีเอ ทั้งสองฉบับ ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2561 (ม.ค.-ส.ค.) ไทยมีการส่งออกไปญี่ปุ่นโดยใช้สิทธิความตกลงเจเทปา มูลค่า 4,792 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าโดยใช้สิทธิเจเทปา มูลค่า 5,302 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.1% ส่วนด้านการใช้สิทธิความตกลง AJCEP ไทยมีการส่งออกไปญี่ปุ่น โดยใช้สิทธิ มูลค่า 206 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าโดยใช้สิทธิ AJCEP มูลค่า 158 ล้านดอลลาร์ ลดลง 14.5%
นางอรมน กล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย สินค้าของไทยที่มีศักยภาพและสามารถแข่งขันได้ในตลาดญี่ปุ่น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป เกษตรอินทรีย์ อาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งอาหารไทยพร้อมรับประทาน โดยไทยควรศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของชาวญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้ตรงกับรสนิยมชาวญี่ปุ่น เจาะเข้าสู่ตลาดเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ควรส่งเสริมและมองหาโอกาสจากธุรกิจบริการที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ บริการด้านการต้อนรับ และบริการสร้างสรรค์