ก.ล.ต. ห้ามโฆษณาคริปโทเคอร์เรนซีในพื้นที่สาธารณะ โดยให้โฆษณาเฉพาะในช่องทางทางการของผู้ประกอบธุรกิจ
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขหลักเกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ผู้ประกอบธุรกิจ) ไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2565 และได้นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจมาพิจารณาประกอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์แล้วนั้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดย
(1) ปรับลดระยะเวลาการพิจารณาเห็นชอบโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจ ก่อนเผยแพร่โฆษณาสู่สาธารณะ จากเดิม 15 วัน เป็น 10 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการวางแผนและจัดทำโฆษณาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ที่ต้องตอบสนองต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว และไม่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ
(2) ขยายระยะเวลาบทเฉพาะกาลให้ผู้ประกอบธุรกิจปรับปรุงแก้ไขโฆษณาที่มีอยู่เดิมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ จากเดิม 15 วัน เป็น 30 วันนับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีระยะเวลาที่เหมาะสมในการเตรียมการและปรับปรุงเนื้อหาโฆษณาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และไม่เป็นภาระต่อผู้ประกอบธุรกิจมากเกินไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้เพิ่มเรื่องให้ผู้ประกอบธุรกิจแจ้ง ก.ล.ต. เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดทำโฆษณา เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องการห้ามโฆษณาคริปโทเคอร์เรนซีในพื้นที่สาธารณะ โดยให้โฆษณาเฉพาะในช่องทางทางการของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีการซื้อขายในลักษณะเร่งการตัดสินใจ (impulsive buying) สำหรับหลักเกณฑ์การโฆษณาอื่นเป็นไปตามหลักการเดิม เช่น
(1) ต้องไม่เป็นเท็จ ไม่เกินความจริง ไม่บิดเบือน ไม่ปิดบัง หรือทำให้สำคัญผิดในสาระสำคัญ
(2) ต้องระบุคำเตือนเรื่องความเสี่ยงตามที่ ก.ล.ต. กำหนดอย่างชัดเจนและสังเกตได้ง่าย
(3) ห้ามโฆษณาเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีในพื้นที่สาธารณะ ขณะที่การโฆษณาเกี่ยวกับการให้บริการยังคงสามารถทำได้ในพื้นที่สาธารณะและช่องทางอื่น ๆ
(4) ต้องควบคุมดูแลการโฆษณาของบริษัท บริษัทในกลุ่มที่อยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจการ รวมถึงผู้ทำโฆษณาและผู้ที่มีผลต่อการตัดสินใจต่อผู้ใช้บริการในสังคมออนไลน์ (influencer) ให้เป็นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
และ (5) ยกเลิกการจัดให้มีผู้แนะนำรายชื่อลูกค้าให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความคุ้มครองผู้ซื้อขายและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะจัดทำร่างประกาศตามหลักการข้างต้นและดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำออกใช้บังคับโดยเร็วต่อไป