ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจี้ “ประยุทธ์” เร่งแก้ไขปัญหาอย่าปล่อยท่องเที่ยวตายตามยถากรรม ชี้ สงคราม น้ำมันแพง โอมิครอนระบาดหนัก จะยิ่งซ้ำเติมท่องเที่ยววูบหนักแนะเร่งทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการ และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สงครามรัสเซียยูเครนนอกจากจะทำให้ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ราคาไฟฟ้า ราคาปุ๋ย ราคาอาหารสัตว์ ราคาแร่ธาตุและสินค่าโภคภัณฑ์ต่างๆขึ้นราคาและจะทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงแล้ว สงครามรัสเซียยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยอย่างมากด้วย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียมาไทยในปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดมีถึง 1.48 ล้านคน ซึ่งหลังเกิดสงครามนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจะหายวับไป
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ทั้งค่าเดินทาง ค่าพักอาศัย ค่าอาหาร ฯลฯ จะแพงขึ้นด้วยซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวน้อยลง อีกทั้งพอมีภาวะสงครามชาวต่างประเทศก็จะไม่มีความรู้สึกอยากเดินทางหรือท่องเที่ยว โดยอาจจะเป็นห่วงความปลอดภัย การก่อการร้าย และเรื่องที่ไม่คาดฝัน ทำให้นักท่องเที่ยวที่อยากมาท่องเที่ยวต้องลดลงตามสถานการณ์ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนกับภาวะสงครามนี้ เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่มาตลอด ต้องอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจของไทย
ทั้งนี้ จึงอยากเตือนพลเอกประยุทธ์ให้เร่งแก้ปัญหาการท่องเที่ยวที่จะลดน้อยลงนี้ อย่าปล่อยตามยถากรรม มิเช่นนั้นปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่การท่องเที่ยวซบเซา หลังจากที่ซบเซามากว่า 2 ปีแล้วจากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด และ ยังไม่ทราบว่าจะฟื้นกลับมาได้เมื่อไหร่ อีกทั้งปัจจุบันการติดเชื้อไวรัสของไทยก็เพิ่มสูงขึ้นจำนวนผู้ติดเชื้อจากตรวจในโรงพยาบาลและจากการตรวจ ATK มีการติดเชื้อถึงวันละกว่า 70,000 รายและอาจจะเพิ่มขึ้นอีกได้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่กลัวการติดเชื้อจะไม่กล้ามาประเทศไทย
นายจักรพล กล่าวว่า แนวทางที่น่าจะเป็นคือการต้องทำการตลาดเชิงรุก ไม่ใช่รอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเอง แต่ต้องไปชักจูงหรือจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น หลายประเทศได้ยกเลิกการกักตัวแล้วถ้าฉีดวัคซีนครบ เช่น ประเทศเกาหลี ทั้งที่ประเทศเกาหลีเองมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากถึงวันละกว่าแสนราย ดังนั้นไทยจะต้องเพิ่มความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวได้ง่ายและสะดวกขึ้น จนกระทั่งถึงตอนนี้รัฐบาลยังไม่ยอมยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาทเลย ซึ่งน่าจะต้องเลิกได้แล้ว ในภาวะที่โลกกำลังมีสงคราม จะต้องทำการตลาดเชิงรุกในเรื่องอื่นเพิ่มเติมด้วยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายและแผนในการทำการตลาดเชิงรุกเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไว้แล้ว เพราะเราไม่เคยทอดทิ้งภาคการท่องเที่ยว
"ในภาวะวิกฤติพลเอกประยุทธ์จะต้องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และ ขยายโอกาส เหมือนหลักคิดของพรรคเพื่อไทยที่มีตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย โดยต้องหาช่องทางสร้างรายได้ในทุกด้าน อย่าหวังว่าทุกอย่างจะฟื้นเองโดยธรรมชาติซึ่งเป็นไปไม่ได้แล้ว ในภาวะผันผวนเช่นนี้ถ้าผู้นำไม่เก่งพอ จะไม่สามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นปัญหาเศรษฐกิจได้ ประชาชนที่ลำบากกันอยู่แล้วจะยิ่งลำบากกันอีกมาก"ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าว