ปทุมธานี-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขยายช่องทางตลาดจับคู่ธุรกิจฟู้ดทรัคและแฟรนไชส์ จัดงาน 'มหกรรมหลักประกันทางธุรกิจและการนำทรัพย์เข้าถึงแหล่งทุน
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์จัดงาน"มหกรรมหลักประกันทางธุรกิจและการนำทรัพย์เข้าถึงแหล่งทุน" ระหว่างวันที่ 23 - 25 ก.พ. ณ สวนเทพปทุม จ.ปทุมธานี โดยมี นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายวีระพงศ์ สืบค้า พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายพงษ์เทพ รุ่งเรือง พัฒนาการจังหวัดปทุมธานี นายสุรพงษ์ เป้ากลาง ประธานหอการค้าจังหวัดปทุมธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากฟู้ดทรัคและแฟรนไชส์กว่า 30 ร้านค้า พร้อมให้คำปรึกษาด้านการเงินจากสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง
นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดมหกรรมหลักประกันทางธุรกิจครั้งแรก หลังจากศบค.มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ โดยอนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนสามารถจัดกิจกรรมได้ ซึ่งกรมฯได้ดำเนินการจัดงานฯ ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
“การจัดงานครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีและประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ โดยสามารถขอคำปรึกษาด้านการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน ฯ (ธ.กรุงไทย ธ.กรุงเทพ ธ.ออมสิน ธ.ก.ส. SME D Bank และ บสย.) รวมถึงขอรับคำแนะนำด้านการประเมินราคาทรัพย์สินจากสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย ก่อนการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ทั้งนี้ กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ภาคธุรกิจใช้เป็นช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยผู้ให้หลักประกัน (ลูกหนี้) ไม่ต้องส่งมอบการครอบครองให้แก่ผู้รับหลักประกัน (เจ้าหนี้ : สถาบันการเงิน) ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถใช้ทรัพย์สินนั้นต่อยอดทางธุรกิจหรือผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อไป”นางรวีพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบฟู้ดทรัค แฟรนไชส์ และอื่นๆ กว่า 30 ร้านค้า นอกจากผู้เข้าร่วมงานจะได้เลือกซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการแล้ว ยังสามารถมองหาอาชีพทั้งหลักและเสริมได้ภายในงานฯ โดยกรมฯ พร้อมให้การส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการรายเดิมและผู้ประกอบการรายใหม่ให้เกิดการเจรจาธุรกิจเพื่อสร้างเครือข่าย สร้างคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้ง สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่ผู้ที่กำลังมองหาอาชีพที่มั่นคงให้แก่ตนเองและครอบครัว
“ทั้งนี้ การจับมือกันระหว่างฟู้ดทรัคและแฟรนไชส์เป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เมื่อมีการควบรวมรูปแบบธุรกิจเข้าด้วยกัน จึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจให้มีเพิ่มมากขึ้น และเกิดเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่พร้อมจะให้นักลงทุนเข้าร่วมลงทุน โดยอาจารย์ญาณเดช ศิรินุกูลชร ประธานและผู้ก่อตั้ง TBIC Food Truck Thailand ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน การขยายธุรกิจฟู้ดทรัครูปแบบแฟรนไชส์มีมากขึ้น เนื่องจากฟู้ดทรัคสามารถขายอาหารในพื้นที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน ใช้บุคคลากรทำงานน้อยกว่า ช่วงเวลาทำงานน้อยกว่า เคลื่อนย้ายร้านไปได้หลายพื้นที่ในแต่ละช่วงเวลา ฟู้ดทรัคจึงเป็นรูปแบบที่ได้เปรียบในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ ที่อัตราการอยู่รอดในธุรกิจสูงกว่า ซึ่งมีฟู้ดทรัคหลายแบรนด์ที่เริ่มใช้รูปแบบการขยายธุรกิจในลักษณะแฟรนไชส์มาต่อยอดธุรกิจ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น”นางรวีพรรณกล่าว
รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่มีศักยภาพ ส่วนใหญ่ยังต้องการความรู้ความเข้าใจ เรื่องการขยายธุรกิจฟู้ดทรัครูปแบบแฟรนไชส์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การตรวจประเมินและปรับปรุงความพร้อมของธุรกิจ โครงสร้างราคาแฟรนไชส์ กลยุทธ์การตลาด การเฟ้นหาแฟรนไชส์ซีที่เหมาะกับธุรกิจตนเอง การเตรียมระบบไอทีมารองรับเพื่อลดขั้นตอน ลดข้อผิดพลาด ข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้ เกิดความรู้ความเข้าใจ และสามารถสร้างระบบแฟรนไชส์ที่ยั่งยืน สอดคล้อง เหมาะสมกับคนไทย โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบแฟรนไชส์ต่างประเทศมากเกินไป จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ขอเชิญชวนผู้ที่กำลังหาโอกาสทางอาชีพหรือธุรกิจและผู้สนใจ เข้าร่วมงาน “มหกรรมหลักประกันทางธุรกิจและการนำทรัพย์เข้าถึงแหล่งทุน” ระหว่างวันที่ 23 - 25 ก.พ. ณ สวนเทพปทุม จ.ปทุมธานี โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถใช้สิทธิโครงการ คนละครึ่ง ได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 4939 e-Mail : stro@dbd.go.th สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th