.
สำหรับเทศกาลลอยกระทง 31 ตุลาคม 2563 กทม.ได้กำหนดจัดงานภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ New Normal” ในทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง พร้อมไปกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังต้องเฝ้าระวัง รวมถึงโรคภัยต่างๆ ที่มักจะเกิดในฤดูหนาว เช่น โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อไวรัส RSV ทางเดินหายใจในเด็ก หากป่วยแล้วไปอยู่ในที่แออัดอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้างได้ครับ
ดังนั้น ไปลอยกระทง ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลด้วยนะครับ โดยทุกจุดที่มีการจัดงานเทศกาลลอยกระทง กทม.ได้เน้นย้ำให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อาทิ การตั้งจุดคัดกรอง จุดลงทะเบียนเข้างานผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” และจุดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค โดยปีนี้ สถานที่จัดงานลอยกระทงในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงคึกคักครับ ได้แก่ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี บริเวณสองฝั่งคลองโอ่งอ่าง ช่วงสะพานหันถึงสะพานภาณุพันธุ์ และตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งสำนักงานเขต 50 เขต ได้ร่วมกับภาคเอกชน และประชาคมในพื้นที่จัดขึ้น เช่น บริเวณท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ วัดโพธิ์ วัดอรุณฯ วัดระฆังฯ วัดกัลยาฯ วัดประยูรฯ ท่ามหาราช ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ล้ง1919 ไอคอนสยาม และเอเชียทีค เป็นต้น นอกจากนี้ กทม.ยังเปิดสวนสาธารณะทั้ง 30 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทงจนถึงเวลา 24.00 น. อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กทม.ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้กระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ และรณรงค์ 1 กระทง 1 ครอบครัว หรือจะใช้วิธีลอยกระทงออนไลน์ ก็ทันสมัยดีครับ เพื่อร่วมกันลดปริมาณขยะและย่อยสลายง่าย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยกทม.จะเร่งจัดเก็บกระทงในแหล่งน้ำต่างๆ รวมถึงคูคลอง และสวนสาธารณะให้แล้วเสร็จภายในเวลา 6 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ส่วนบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา อาจต้องใช้เวลา เนื่องจากพื้นที่กว้างและเป็นระบบน้ำไหลเชี่ยว การจัดเก็บจะยากกว่าครับ แต่ก็จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้กรุงเทพฯ สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อไป
ส่วนการดูแลความปลอดภัยของประชาชนนั้น กทม.ได้มีการเตรียมพร้อมทุกด้านครับ ตั้งแต่การตรวจสอบความปลอดภัยของโป๊ะและท่าเรือทุกแห่ง พร้อมทั้งปิดป้ายแจ้งจำนวนคนและน้ำหนักบรรทุก มีอุปกรณ์ช่วยเหลือเบื้องต้นประจำโป๊ะและท่าเรือ เช่น เสื้อชูชีพ ห่วงยาง เชือก ไฟฉาย และมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดพร้อมทีมแพทย์กู้ชีวิต และหน่วยตรวจการณ์ทางเรือตลอดลำน้ำ ตั้งแต่ช่วงสะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระราม 9 ด้วย
เรื่องฟืนไฟก็ต้องระวังครับ โดยกทม.ได้ออกประกาศ ห้ามจุดพลุ ดอกไม้เพลิง และห้ามปล่อยโคมลอย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดต่อชีวิต ทรัพย์สิน และเหตุอัคคีภัย ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังห้ามจำหน่ายและห้ามเล่นประทัดทุกชนิด ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
การกำหนดข้อปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ นั้น กทม.ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เทศกาลลอยกระทงขาดสีสันความสวยงามหรือความสนุกสนาน แต่เราตระหนักถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นสำคัญ มาร่วมมือกันนะครับ