.
กรณีน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายจุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องยอมรับครับว่าพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากจริงๆ โดยเฉพาะที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นแอ่ง เนื่องจากฝนตกหนักเกินกว่า 100 มิลลิเมตรต่อเนื่อง 2-3 วัน ซึ่งในวันที่ 7-9 ต.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาแจ้งเตือนอีกว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากอีกครั้ง กทม.จึงได้เรียกประชุม 50 สำนักงานเขต เพื่อกำชับการปฏิบัติทั้งด้านการป้องกันและรับมือให้ดีที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนครับ
ในช่วงที่น้ำท่วมขัง ก็มีเสียงต่อว่าถึงการทำงานของกทม. ผมไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบครับ น้อมรับฟังและจะเร่งแก้ไขปัญหาในทุกจุดแม้จะไม่ใช่พื้นที่ในความรับผิดชอบของกทม.ก็ตาม แต่กทม.ก็ไม่เคยนิ่งนอนใจต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง และเจ้าหน้าที่ของเราก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าฝนจะตกดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องออกไปดูแลพื้นที่ ที่สำคัญเรามีการพัฒนาระบบระบายน้ำในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง เช่น แก้มลิงใต้ดิน หรือ water bank ที่เปิดใช้งานแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณวงเวียนบางเขน และปากซอยสุทธิพร 2 ซึ่งก็ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้น่าพอใจ ส่วนที่กำลังก่อสร้างอยู่อีก 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณใต้สะพานทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนกรุงเทพกรีฑา และใต้สะพานข้ามแยกรัชดาภิเษกตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานได้ราวๆ กลางปี 64 ก่อนฤดูฝนหน้าครับ
นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างทางลัดน้ำใต้ดิน (pipe jacking) และอุโมงค์ระบายน้ำทั้งที่เปิดใช้แล้วเต็มศักยภาพ และที่กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม เช่น อุโมงค์บึงหนองบอน ที่จะแล้วเสร็จปลายปี 2564 เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังย่านบางนา พระโขนง สวนหลวง ประเวศ อีกด้วย
ส่วนการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงต่างๆ ได้มีการลอกท่อโดยจ้างเหมาเอกชนและเจ้าหน้าที่ของกทม.เอง ไม่ได้จ้างกรมราชทัณฑ์เหมือนทุกครั้งด้วยติดขัดด้านข้อกฎหมาย โดยปี 63 กทม.ได้ลอกท่อกว่า 3,300 กิโลเมตร ครบตามแผนงาน 100% ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในแผนลอกท่อของปีนี้ ก็จะดำเนินการในปีหน้า สลับหมุนเวียนไปครับ เพราะท่อในพื้นที่กทม.มีความยาวถึง 6,200 กิโลเมตร แต่หากประชาชนร้องเข้ามา เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบและดำเนินการให้ครับ รวมไปถึงในช่วงที่ฝนตก เจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นที่เก็บขยะหน้าตะแกรง หน้าสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำมาตลอด เพื่อป้องกันขยะกีดขวางทางน้ำ รวมไปถึงเก็บขยะชิ้นใหญ่ทุกสัปดาห์ เพื่อลดและป้องกันการลักลอบทิ้งขยะชิ้นใหญ่ลงคลองกีดขวางทางน้ำเช่นกัน
สำหรับการเตรียมพร้อมในการป้องกันและรับมือฝนที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7-9 ต.ค. รวมถึงไปตลอดฤดูฝนซึ่งจะสิ้นสุดประมาณสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ผมได้ย้ำให้ 50 สำนักงานเขต ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมกำลังคนและอุปกรณ์ ทั้งเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย และการช่วยเหลือด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง
แม้ปัญหาน้ำท่วมจะเกิดมาจากหลายปัจจัย กทม.จะเดินหน้าทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนครับ