.
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทำให้โรงเรียนต่างๆ ต้องยืดเวลาเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งคาดการณ์ว่าขณะนั้นสถานการณ์น่าจะดีขึ้นจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ และไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนมากนัก
แต่พ่อ แม่ ผู้ปกครองยังมีข้อกังวลว่า ปิดเทอมนานขนาดนี้จะส่งผลกระทบต่อการเรียนของบุตรหลาน เพราะการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ที่จัดทำขึ้นก็ไม่ได้พร้อมสำหรับเด็กและผู้ปกครองทุกคน รวมถึงเมื่อเปิดเทอมไปแล้วบุตรหลานจะปลอดภัยจากเชื้อโควิดหรือไม่
กทม.ได้เตรียมพร้อมมาตรการก่อนเปิดเทอม รวมถึงฝึกอบรมครูเพิ่มความรู้ในการป้องกันโควิด-19 โดยมีการตั้งคณะกรรมการติดตามการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัดกทม.ทั้ง 437 โรงเรียน อีกทั้งสำรวจความพร้อมของโรงเรียนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เช่น การจัดเตรียมหน้ากากอนามัย จุดติดตั้งแอลกอฮอล์ล้างมือ สบู่ล้างมือ ฉากกั้น อุปกรณ์คัดกรองอื่นๆ การทำความสะอาดอาคารเรียนและบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมาตรการการเหลื่อมชั้นเหลื่อมเวลาเรียน เพื่อลดความแออัดภายในโรงเรียน
นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ “4 ON” ครอบคลุมเด็กทุกกลุ่ม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ได้แก่ Online คือ การเรียนผ่านอินเตอร์เน็ตในแบบเรียลไทม์ On-Air การเรียนรู้ผ่านดิจิทัลทีวีและในหลายๆ ช่องทาง เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น และยูทูป On Hand การจัดส่งหนังสือแบบเรียนและสื่อการเรียนรู้ถึงบ้าน และ On Site การจัดกลุ่มขนาดเล็กเรียนที่โรงเรียน
เบื้องต้น กทม.ได้กำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-14 พ.ย.63 และภาคเรียนที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.63 – 10 เม.ย.64 ในส่วนของการนับเวลาเรียนและการสอนชดเชย มีทั้งรูปแบบของการสอนในโรงเรียน โดยเพิ่มเวลาเรียนในแต่ละวันหรือเรียนในวันหยุด การสอนผ่านระบบออนไลน์ โดยกำหนดตารางสอนอย่างชัดเจนที่สามารถวัดและประเมินผลได้จริง รวมถึงคำนึงถึงความพร้อมของผู้เรียนด้วย และการสอนแบบผสมผสานในหลายช่องทาง เช่น ครูมอบหมายโครงงานผ่านช่องทางออนไลน์หรือช่องทางอื่นๆ ที่เหมาะสมกับนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้ไปดำเนินการต่อไป
กทม.ได้เตรียมพร้อมด้านการศึกษาในทุกช่องทางและทุกรูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับวัยของเด็กและความพร้อมของผู้ปกครอง เพราะนักเรียนสังกัดกทม.มีความหลากหลายทั้งด้านพื้นฐานครอบครัวและโอกาสในการเรียนรู้ ซึ่งแต่ละโรงเรียนจะพิจารณาถึงความเหมาะสมและความพร้อมของนักเรียนในแต่ละระดับชั้นต่อไปครับ