.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้สำรวจคนไทย 140,000 คน เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศ เพื่อที่จะได้รับทราบข้อมูลว่าประชาชนป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงในการติดเชื้อมากเพียงใด พร้อมทั้งหาทางรณรงค์ป้องกันได้อย่างตรงจุดและรวดเร็วครับ ซึ่งก็พบว่าพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในหลายๆ ด้าน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย 94% ล้างมือบ่อยๆ 90.5% แต่เรื่องการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลยังน้อยมากครับ เพียงแค่ 65% เท่านั้น จากเป้าหมายที่ควรจะเป็นคือมากกว่า 80% เนื่องจากจะช่วยลดโอกาสการแพร่กระจายของโรคได้อย่างมีประสิทฺธิภาพสูงสุด
ขณะนี้หลายๆ หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ได้ออกมาตรการที่จะเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลให้มากที่สุด เช่น การทำงานที่บ้าน การสลับกันทำงาน การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารถึงกัน เช่น โทรศัพท์ ไลน์ วิดิโอคอล การประชุมทางไกล (vdo conference) ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ เพื่อที่จะลดความแออัดของบุคคล และการไปในสถานที่ต่างๆ
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำงานที่บ้าน หรือหยุดงานได้ ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เน้นการเว้นระยะห่างกับบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร หากจำเป็นต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะ ให้หลีกเลี่ยงรถและเรือที่แออัด เผื่อเวลาเดินทางและใช้เวลาในการคอยสักนิดนะครับ เพื่อความปลอดภัย ในส่วนของผู้โดยสารรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้นั่งซ้อนแบบหันข้างแทนการนั่งคร่อมเบาะโดยสาร พกแอลกอฮอล์ล้างมือและล้างมือทุกครั้งเมื่อต้องสัมผัสเบาะนั่งหรือที่จับผู้โดยสารครับ
ส่วนผู้ที่ให้บริการรถสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เรือโดยสาร และขนส่งมวลชนต่างๆ ผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดและเช็ดฆ่าเชื้ออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังให้บริการต่อราย หากผู้ขับขี่ไม่สบาย ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ให้รีบไปพบแพทย์ หรือกักตัวที่บ้านเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน
มาร่วมมือกันครับ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลให้มากที่สุด งดออกไปสังสรรค์ หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านหรือไปทำงาน ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกาย อยู่ห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร การไปจ่ายตลาดก็ซื้อให้เพียงพอ แต่ไม่ต้องกักตุนนะครับ อาจไปอาทิตย์ละ 1-2 วัน ถ้าตรงไหนคนเยอะ แออัด หลีกเลี่ยงเถอะครับ ผมทราบดีว่าพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากการประกาศมาตรการต่างๆ ทั้งด้านอาชีพ ปากท้อง บ้างก็อาจรู้สึกเครียดและอึดอัดที่ไม่ได้พบปะสังสรรค์กันเหมือนก่อน แต่ช่วงเวลานี้เราต้องอดทนและร่วมมือกัน เพื่อที่จะผ่านวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว และได้กลับมาใช้ชีวิตปกติให้เร็วที่สุดครับ