.
ขณะนี้นอกจากอากาศจะร้อนมากในตอนกลางวันแล้ว สถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วเช่นเดียวกันครับ ซึ่งในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร กทม.ก็ได้ติดตามสถานการณ์ รวมถึงเตรียมมาตรการป้องกันและการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนใน 6 ด้าน ได้แก่ ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค การขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตร ปัญหาน้ำเค็มจากน้ำทะเลหนุน ปัญหาถนนทรุดตัว ปัญหาด้านสาธารณสุข (โรคระบาด) และปัญหาไฟไหม้หญ้า
ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักพัฒนาสังคม และสำนักสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมการเพื่อป้องกันและรับมือกับปัญหาภัยแล้งไว้เรียบร้อยแล้วครับ ทั้งการประสานงานกับกรมชลประทานในการผันน้ำเข้าในพื้นที่กรุงเทพฯ
การควบคุมการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรณีที่ค่าความเค็มเกินค่ามาตรฐาน เพื่อไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้าตามคลอง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเกษตรกร การตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและตามคลองต่างๆ อย่างต่อเนื่อง การแจกจ่ายน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค และการจัดเตรียมยานพาหนะ เครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรกล วัสดุอุปกรณ์ กรณีเกิดปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเข้าดำเนินแก้ไข เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรปลูกพืชที่เหมาะสม หรือพืชที่ใช้น้ำน้อย และการปลูกพืชเสริม จำพวกพืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงประสานการประปานครหลวง ขอรับการสนับสนุนน้ำประปาโดยไม่คิดมูลค่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 จนกว่าสภาวะภัยแล้งจะคลี่คลายหรือยุติลง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่เขตชั้นนอกของกรุงเทพฯ ซึ่งน้ำประปายังเข้าไม่ถึงครับ
ในส่วนของปัญหาไฟไหม้หญ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีแนวโน้มลดลงครับ จากเดิมปี 2559 เกิดไฟไหม้หญ้าจำนวน 3,373 ครั้ง ปี 2560 จำนวน 1,893 ครั้ง และปี 2561 จำนวน 1,004 ครั้ง ซึ่งเป็นที่น่าดีใจครับที่แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ครับ ได้สั่งการให้สำนักงานเขตจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่ต่างๆ กวดขันไม่ให้มีการลักลอบทิ้งขยะหรือเผาขยะและหญ้าในที่สาธารณะ รวมถึงเดินหน้ามาตรการเปลี่ยนพื้นที่เปลี่ยว ให้เป็นพื้นที่โปร่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาไฟไหม้หญ้าต่อไป
ส่วนด้านสาธารณสุข หรือโรคระบาดที่มักเกิดในหน้าแล้ง กทม.ได้มอบหมายให้สำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ ออกให้คำแนะนำ ให้ความรู้ เฝ้าระวังและป้องกันโรคที่มักเกิดในหน้าร้อนอย่างเร่งด่วน เช่น อาหารเป็นพิษหรือท้องร่วง โรคลมแดด โรคพิษสุนัขบ้า และโรคไข้เลือดออก ยิ่งตอนนี้โรคไข้เลือดออกได้แพร่ระบาดทั่วประเทศไทย ซึ่งในกรุงเทพฯ พบผู้ป่วย 671 ราย และมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นแล้ว 1 ราย ที่เขตบางแค กทม.จึงเร่งจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมสถานการณ์และป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดแล้ว