อธิบดี สถ. ย้ำชัดจัดสรรงบให้ อปท. แล้ว ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพปี 62 ตรงเวลาแน่นอน
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.)กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่า ด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ว่า สามารถจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ 3 วิธี คือ 1.รับเป็นเงินสด 2.โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากในนามผู้ที่ได้รับสิทธิ และ 3.ผู้ที่ได้รับสิทธิสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับแทนได้เป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ที่รับมอบอำนาจ ส่วนกรณีที่บางจังหวัดได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งใช้วิธีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิทุกรายนั้น ก็อาจเป็นการเตรียมความพร้อมตามนโยบาย e-payment ของรัฐบาลนั่นเอง
ทั้งนี้ โครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ ที่ให้ อปท. ดำเนินการตั้งงบประมาณในข้อบัญญัติท้องถิ่น/เทศบัญญัติ ในหมวดงบกลาง ประเภทเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ขณะนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้จัดสรรงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2562 งวดที่ 1 (ต.ค.ม – ธ.ค. 2561) เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 17,051,595,900 บาท ให้แก่ อปท. เรียบร้อยแล้ว จึงขอให้มั่นใจได้ว่า ผู้สูงอายุทุกท่านจะได้รับสวัสดิการเบี้ยยังชีพได้ตรงตามเวลาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และมีคุณสมบัติครบถ้วน มาลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อปท. ประจำปี 2563 ได้ตั้งแต่เดือนต.ค.2561 ถึงเดือนพ.ย. 2561 และเดือนม.ค.2562 ถึงเดือนก.ย. 2562 ด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทน โดยมี เอกสารตามที่ราชการกำหนดไว้ เพื่อจะได้มีสิทธิ์รับเงินเบี้ยยังชีพ
สำหรับ การเตรียมเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย 1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย 2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่เป็นปัจจุบัน และ 3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ์ ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ์