BKK NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

15 สิงหาคม 2564 : 14:45 น.

กระทรวงดีอีเอสจับมือเครือข่ายแพทย์อาสา We Care Network ตรวจเชิงรุกแบบ ATK ให้ชาวชุมชนในกทม.เพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาระบบและวางแผนในเชิงระบาดวิทยา ควบคุมโควิดแพร่ระบาด

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ และ นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (HEC) ผู้ก่อตั้ง “We Care Network – เครือข่ายเราดูแลกัน” ทำโครงการ Covid-19 Home Care ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation ( HI ) ได้ลงพื้นที่ ชุมชนวังแดง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ตรวจเชิงรุกคนในชุมชน ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการตรวจเชิงรุก และคัดแยกผู้ป่วยออกจากชุมชน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายซื้อชุดตรวจ ATK เพื่อตรวจเชื้อโควิดเชิงรุกให้กับประชาชน แต่หากให้ประชาชนนำไปตรวจเองโดยขาดความรู้ จะทำให้เกิดความผิดพลาดของผลที่ออกมาได้สูง จึงได้หารือกับทีมแพทย์อาสา We Care Network เพื่อออกตรวจตามจุดต่าง ๆ และให้คำแนะนำแก่คนในชุมชน พร้อมทั้งได้ได้มีการลงทะเบียนเพื่อเก็บข้อมูลผู้ที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ โดยมีบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT นำไปพัฒนาเป็นฐานข้อมูล รูปแบบเแอปพลิเคชั่นหรือซอฟต์แวร์ เพื่อใช้ในตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพและบริหารจัดการการตรวจได้ง่ายขึ้น

“การตรวจในชุนชนที่มีกลุ่มเสี่ยงและมีผู้ติดเชื้อ จะเรียกมาทีละครอบครัว เพื่อลดความแออัด เมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อ จะทำการคัดแยกผู้ป่วยออกจากชุมชน ส่งเข้าสู่ระบบ Community Isolation เพื่อรอเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป มองว่า สิ่งที่ทำในวันนี้ จะเป็นโมเดลต้นแบบต่อไป” รมว.ดิจิทัลฯกล่าว

ด้าน นพ.ฆนัท กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อค่อนข้างมาก สิ่งสำคัญคือ ต้องแยกผู้ป่วยออกมาให้ได้มากที่สุด การตรวจเชิงรุก หรือการตรวจหาเชื้อด้วยตนเองของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เครือข่ายสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และเครือข่าย We Care Network ได้เข้ามาให้บริการตรวจเชื้อโควิดประชาชน ทำไปหลายจุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัท หน่วยงาน และชุมชนต่าง ๆ ข้อมูลของผู้เข้ารับการตรวจ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องนำมาวิเคราะห์ ประเมินผล เพื่อวางแผนในเชิงระบาดวิทยาต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้สั่งซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด เพื่อเร่งการตรวจเชิงรุกให้มากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการวางแนวทางมาตรการ ในการใช้ชุดตรวจ ATK ให้เกิดประโยชน์ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาจจะต้องมีการติดตามว่า ซีเรียลนัมเบอร์ชุดตรวจที่ให้ไปนั้น ประชาชนที่ได้รับมีการนำไปใช้ตรวจจริงหรือไม่ เพราะปัญหาอีกประการหนึ่งของการตรวจด้วยตนเองพบว่า ประชาชนได้ชุดตรวจ ATK ไป แล้วนำไปเก็บไว้ ไม่ยอมตรวจ หรือขาดความรู้ในการใช้งานชุดตรวจ ซึ่งจะทำให้เกิดการรายงานผลผิดพลาด ดังนั้น จำเป็นต้องมีมาตรการหรือวิธีการที่จะช่วยประชาชนในการให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม

ด้าน น.ส.กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ความสำคัญของการตรวจเชิงรุกคือการแยกผู้ป่วยออกมา จะมีการดำเนินการต่อเนื่องในอีกหลายชุมชน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมแพทย์จิตอาสา We Care Network ที่เข้ามาช่วยเหลือการตรวจในชุมชนต่าง ๆ 

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ